ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 ตุลาคม 2559 ได้มีการแชร์ภาพชุด “ความทรงจำ 12 มีนาคม 2502” ในกลุ่มไลน์และเฟสบุ๊คและมีการแชร์ต่อๆกันไป เป็นภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อมด้วย สมเด็จนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระราชดำเนินมายังมัสยิดซอลาฮุดดีน ตั้งอยู่ที่ ถนนกะโรม ตรงสี่แยกถนนกะโรมตัดกับถนนมหาราช ตำบลคลัง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ มัสยิดซอลาฮุดดีนแยกมาจากมัสยิดญาเมี๊ยะ การสร้างของมัสยิด สร้างด้วยไม้ ใต้ถุนสูงประมาณ 2.50 เมตร มีบันไดขึ้นทางด้านตะวันออก ห่างจากถนนราชดำเนิน 25 เมตร ภายในรั้วมัสยิดสร้างเป็นอาคารเล็ก ๆ แบบพักร้อนด้วย เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า 9 x 12 เมตร พื้นและฝาใช้กระดาน มีหน้าต่างทั้งหมด 12 ช่อง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม่มีฝาเพดาน ต่อมุขออกไปทางตะวันตกของอาคารเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 3 x 2 เมตร เป็นที่ตั้งมิมมัร ใน พ.ศ. 2598 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานที่ดินวัดท่าช้างร้าง เป็นสถานที่ก่อสร้างมัสยิดซอลาฮุดดีน หรือ มัสยิดท่าช้างเป็นสมบัติซอลาฮุดดีนโดยการทำยาติกรรมต่อกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ
นายซอแหละ บุญมาเลิศ อิหม่ามมัสยิดซอลาฮูดดีน เปิดเผยว่า สำหรับมัสยิดซอลาฮุดดีน แห่งนี้ เมื่อสมัยอดีตเป็นมัสยิดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เคยเสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมพสกนิกรชาวมุสลิมใน จ.นครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2502 หรือเมื่อ 57 ปี ที่แล้ว และในหลวงทรงประทับบนแท่นมิมบัรภายในมัสยิด และครั้งนั้นได้สร้างความปลาบปลื้มและประทับใจให้กับพสกนิกรชาวไทยมุสลิมใน พื้นที่อย่างล้นพ้น