ตาวัย 74 ปีนขึ้นต้นมะกอกไปตัดกิ่งไม้ ร้อนจัดวูบตกใส่หลังคา ดับคาที่
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.65 ร.ต.อ.มานิตย์ หยั่งถึง พนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนตกต้นไม้เสียชีวิตที่บ้านพัก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสระบุรี และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี เมื่อไปถึงพบชาวบ้านยืนมุงดูผู้เสียชีวิต เป็นชาย ในสภาพนอนหงายอยู่ใต้ต้นมะกอกหน้าโรงเพาะเห็ด สวมเสื้อคอปกลายสีขาว-ม่วง สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และที่โคนต้นมะกอก พบรองเท้า 1 คู่ และหมวก 1 ใบ ถัดไปพบมีดปังตอ 1 ด้าม ตกอยู่ข้างโรงเพาะเห็ด ทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายสมาน ยาดี อายุ 74 ปี แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ พบที่ใบหน้าข้างขวาฟกช้ำ เลือดไหลออกจากปากและจมูก
จากการสอบสวนในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เมื่อช่วงเวลา 9-10 โมงเช้า ผู้ตายได้ปีนขึ้นต้นมะกอก สูงประมาณ 5 เมตร พร้อมมีดปังตอคู่ใจ ขึ้นไปตัดกิ่งไม้ เพื่อไม่ให้ไปเกี่ยวกับสายไฟ อาจพลัดตกลงมาหรือเกิดอาการวูบก็เป็นได้ เนื่องจากอากาศร้อนจัดและประกอบกับยังไม่ได้ทานข้าวที่ภรรยาทำไว้ให้กิน จึงทำให้เกิดอาการหน้ามืดแล้วได้ตกลงมาใส่หลังคา กระแทกลงพื้นดินในลักษณะคว่ำหน้า จนทำให้หน้าช้ำและเลือดออกปากจมูกเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิต แพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ส่งชันสูตร และได้มอบศพให้กับญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
นางสมใจ ยาดี อายุ 71 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ช่วง 9-10 โมง แกมาตัดต้นไม้ที่นี่ ซึ่งตนเองก็เห็น และจึงได้ออกไปทำงานข้างนอก พอเลิกงาน กลับมาถึงบ้าน ก็ไม่เห็นแก ไปดูหม้อข้าวและกับข้าวก็ไม่เห็นกิน จึงได้เดินหาทั่วบ้าน และเดินไปดูโรงเพาะเห็ดข้างบ้าน เจอแกนอนคว่ำหน้าอยู่ใต้ต้นมะกอก จึงได้ไปจับตัวพลิกหงายดู ก็ตกใจเห็นแกตัวแข็งทื่อ เสียชีวิตแล้ว ตนร้องไม่ออกมันจุก พอได้สติจึงได้เรียกหาน้องและรีบโทรหาลูกที่ไปทำงานและเป็นครูอยู่ตัวในเมือง ยังไม่กลับมา จึงได้ออกไปตามหาลูกอีก ขณะนั้นมีหลานเฝ้าบ้านอยู่คนเดียว จึงไม่รู้ว่าผู้ตายตกต้นมะกอกเสียชีวิตแล้ว รู้สึกใจหาย ไม่น่าเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะเขาไม่เคยเจ็บป่วย และไม่มีโรคภัย
