เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2559 ภายหลังจากทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทำให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างอยู่ในความโศกเศร้า และร่วมกันน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย พร้อมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
โดยประชาชนที่อยู่รอบหนองเลิงเปือย ในพื้นที่อำเภอร่องคำและอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ในโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงห่วงใย และมีพระราชดำริโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งให้กับประชาชน จนทำให้ปัจจุบันพื้นที่รอบหนองเลิงเปือยกลับมาเป็นสีเขียว เกษตรกรมีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปี และมีการน้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาใช้ในชีวิตประจำวัน จนทำให้ปัจจุบันมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยประชาชนทุกคนยังขอสืบสานพระราชปณิธานแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเดินตามรอยพ่อต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
โดยเฉพาะที่ทำการชาวนาของนายเรืองศิลป์ ยุบลมาตย์ เลขที่ 113 หมู่ 1 ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้แปลงต้นแบบเกษตรประยุกต์ทฤษฎีใหม่ ยังคงทำการเกษตรแบบผสมผสานและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนสร้างรายได้ให้ครอบครัวตลอดไป และยังคงเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้ขั้นตอนปฏิบัติเกี่ยวกับการปลูกพืชทฤษฎีใหม่ตลอดเวลา
นายเรืองศิลป์ ยุบลมาตย์ กล่าวว่า เดิมพื้นที่รอบหนองเลิงเปือยนั้นประสบปัญหาฝายเก็บกักน้ำชำรุดและหนองเลิงเปือยเกิดการตื้นเขิน ซึ่งเมื่อถึงฤดูฝนก็จะเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่การเกษตรในตำบลโพนงาม อำเภอกมลาไสย และตำบลเหล่าอ้อย อำเภอร่องคำ เป็นประจำทุกปี แต่เมื่อถึงหน้าแล้งก็ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตร อีกทั้งการที่แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ใกล้เคียงขาดการพัฒนาและพื้นที่การเกษตรบางส่วนอยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำธรรมชาติจึงยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำรุนแรงขึ้น แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณต่อราษฎรผู้เดือดร้อน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงรับโครงการขุดลอกหนองเลิงเปือยและซ่อมแซมฝาย เป็นโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนทำให้ปัจจุบันพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วมในช่วงหน้าฝน และขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งกลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง เพราะมีน้ำอุปโภคบริโภคและการเกษตรกับประชาชน 53 หมู่บ้าน 4 ตำบล รวม 42,958 ไร่ ตลอดทั้งปี
นายเรืองศิลป์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ปัจจุบันเกษตรกรรอบหนองเลิงเปือยทั้ง 2 อำเภอยังได้น้อมนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำเนินในชีวิตประจำวัน โดยการปลูกพืชผสมผสาน ทำการเกษตรอินทรีย์ ทั้งพืชผักสวนครัว ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ การประมง ยึดวิถีชีวิตแบบพอเพียง ซึ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดี สร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรที่ประสบผลสำเร็จในการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ตั้งที่ทำการชาวนาขึ้นมาปัจจุบันอย่างน้อย 15 แห่ง ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้แปลงต้นแบบเกษตรประยุกต์ทฤษฎีใหม่ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย โดยเกษตรกรทุกคนนั้นล้วนรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่จะเดินตามรอยพ่อ ทั้งการยึดหลักและพระราชปณิธานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรผสมผสาน รวมทั้งจะถ่ายทอดความรู้ต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
