คอมมานโดจับเสี่ยร้านทองดังมหาชัย ตุ๋นลงทุนค้าทอง เสียหาย 30 ล้าน พร้อมขอรับโทษ เพราะทำธุรกิจขาดทุนไปหมดแล้ว
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ.พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำกำลังจับกุมนายชัยวัฒน์ กมลรุจิเรช อายุ 70 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 235/2564 ในความผิดตาม พรบ.เช็ค และหมายจับความผิดคดีเดียวกันอีก 2 หมาย
สืบทราบว่า ระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ค. 2564 นายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเจ้าของร้านทองธนวัฒน์ ซึ่งเป็นร้านทองชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร ได้ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายมาลงทุนซื้อขายทองที่จะได้ผลตอบแทนสูง โดยอ้างว่า ตนมีแหล่งซื้อทองราคาถูก ผู้เสียหายหลงเชื่อ เพราะผู้ต้องหามีความน่าเชื่อถือ เนิ่องจากทำธุรกิจร้านทองมาเป็นเวลานานแล้ว ก็เลยยอมร่วมลงทุนด้วย
ต่อจากนั้น ช่วงแรก ๆ ผู้เสียหายก็ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายก็เริ่มมีความมั่นใจว่าจะได้ผลตอบแทนเหมือนเช่นเดิมอีก จึงเพิ่มเงินลงทุนไปอีก ปรากฏว่าครั้งนี้กลับไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ ส่วนนายชัยวัฒน์ก็อ้างว่า ราคาทองผันผวนจนทำให้ขาดทุน แต่ผู้เสียหายไม่เชื่อ เพราะขณะนั้นราคาทองก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจะขอถอนเงินทุนคืนทั้งหมดประมาณ 30 ล้านบาท แต่นายชัยวัฒน์ไม่มีคืนให้ จึงจ่ายเป็นเช็คให้แทน แต่เป็นเช็คที่ไม่สามารถขึ้นเงินได้ รวมทั้งผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อนายชัยวัฒน์ได้อีกเลย จึงเข้าแจ้งความสภ.เมืองสมุทรสาคร จนมีการออกหมายจับผู้ต้องหาไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ผู้ต้องหานั้นหลบหนีคดีมาอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ สอบสวนนายชัยวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า เงินที่ได้มาจากผู้เสียหายนั้น ตนเอาไปลงทุน เลี้ยงกุ้ง และ เลี้ยงปลา ที่จ.เพชรบุรี แต่ขาดทุนหมดแล้ว และไม่มีเงินไปจ่ายคืนให้ผู้เสียหายได้ ส่วนร้านทองของตนก็ถูกธนาคารยึดไปนานแล้ว จึงไม่มีทรัพย์สินใดๆ ที่จะนำมาคืนให้กับกลุ่มผู้เสียหายได้อีกแล้ว โดยพร้อมจะขอรับโทษตามกฎหมายด้วย จึงนำตัวส่งสภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีต่อไป