เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 09.30 น. ที่ห้องทำงาน นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ตัวแทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดตรัง นำโดยนางกันยา ปันกิติ นางณัฐธยาน์ แท่นมาก นายล่อง เพชรสุด พร้อมสมาชิกกว่า 10 คน เข้าพบ นายศิริพัฒ เพื่อหารือการแก้ปัญหาที่ทำกินให้กับชาวบ้านที่อาศัยทำกินในเขตป่าไม้ ได้รับการดูแลจากภาครัฐ
นางกันยากล่าวว่า จริงๆ แล้ววันนี้มาพบนายศิริพัฒเนื่องในโอกาสที่ท่านเดินทางมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดตรังล่าสุด โดยไม่มั่นใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดจะเข้าใจเครือข่ายหรือไม่ โดยอยากจะบอกผู้ว่าฯว่าปัญหาของทางเครือข่ายที่เกิดขึ้นในช่วงที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนกำลังโศกเศร้าถึงการจากไปของในหลวง ปัญหาต่างๆ จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบชะลอไปก่อน แต่ถ้ายังมีการรุกทวงคืนที่ดินชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งทางผู้ว่าฯก็มีการพูดตรงๆ ไปตามกฎหมายซึ่งท่านอาจจะไม่เข้าใจนโยบายของทางเครือข่ายมากนัก ดังนั้น เมื่อมีโอกาสจะต้องมาหาท่านเพื่อหาแนวทางแก้ไขตามที่ท่านผู้ว่าฯ พูดว่า คนก็อยู่ได้ ป่าก็อยู่ได้ เพราะทางเครือข่ายเองก็ไม่ได้ยึดครองผืนป่า เพียงแต่อาศัยผืนป่าในการทำมาหากิน และไม่มีมีการออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินใดๆ ทั้งสิ้น
ด้านนายศิริพัฒกล่าวว่า ทางเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดเองก็ทราบอยู่แล้วว่าอะไรควร อะไรไม่ควร มีปัญหาก็ช่วยแก้กันไป อย่าไปทุบโต๊ะว่าการแก้ปัญหาจะแล้วเสร็จในระยะเวลา 3 เดือน หรือ 5 เดือน หน่วยงานภาครัฐเองก็รู้ว่าชาวบ้านเดิมอาศัยอยู่เท่าไหร่ บุกรุกใหม่เท่าไหร่ โดยเฉพาะการที่ไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด กฎหมายป่าต้นน้ำคนทั้งโลกจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสร้างที่อยู่อาศัย เพราะจะกระทบต่อปลายน้ำ แต่หากเป็นป่าเสื่อมโทรมไม่มีใครว่า
“ผมอยากบอกว่าอย่าไปซีเรียส ตัดไม้ทำลายป่าเพิ่ม ให้อาศัยอยู่อย่างรู้ดีรู้ชั่ว อย่าอ้างว่าปลูกต้นมะพร้าวแล้วจะเป็นเจ้าของป่า เรื่องดังกล่าวมีทฤษฎีของเขาอยู่โลกมนุษย์ถือเหมือนกันทั่วโลกว่าอย่างไรถูก อย่างไรไม่ถูก เพราะฉะนั้นการทำมาหากินต้องมีขอบจำกัด การทำมาหากิน ก็เป็นการทำมาหากิน แต่ไม่ใช่ไปยึดครองที่ดินด้วยการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า” นายศิริพัฒกล่าว
