ตร.เผย ดำเนินคดี ‘สันติ’ ที่ไทย ไม่มีสนธิสัญญาส่งไปไต้หวัน พ่อย้ำ ลูกผิดก็ต้องรับโทษ

ตร.เผย ดำเนินคดี ‘สันติ’ ที่ไทย ไม่ส่งไปไต้หวัน พ่อย้ำ ลูกผิดก็ต้องรับโทษ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 17 มิถุนายน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เผยกรณีนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่านายประเสริฐ โนราษอายุ 32 ปี และ น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ หรือนางลี่ อายุ 35 ปี พร้อมลูกแฝดในท้องรวม 4 ศพ ที่ไต้หวัน ก่อนเข้ามอบตัวกับกองปราบปรามที่ทำการหมวดมวลชนสัมพันธ์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 335 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว เมื่อเช้าที่ผ่านมา ว่า กองปราบปรามได้ควบคุมตัวนายสันติขึ้นเครื่องไปสอบสวนที่กองปราบ กรุงเทพฯแล้ว

“ผู้ต้องหามีท่าทางปกติ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ซึ่งการดำเนินคดีเป็นหน้าที่กองปราบ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากผู้เสียชีวิต เป็นคนไทย และผู้ต้องหาถูกศาลออกหมายจับ จึงต้องดำเนินคดีในไทย เพื่อรับโทษตามกฎหมาย ไม่ต้องส่งตัวไปดำเนินคดีที่ไต้หวันอย่างใด เนื่องจากไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน”

“กรณีนายยิ่งยศ แซ่หลี่ อายุ 38 ปี พี่ชาย น.ส.พจนีย์ ได้ร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจภาค 5 ให้ติดตามและดำเนินคดีกับนายสันตินั้น ทางภาค 5 ไม่ได้รับแจ้งดำเนินคดี แต่เป็นการแจ้งเบาะแสผู้ต้องหา พร้อมขอคุ้มครองความปลอดภัยกับครอบครัวผู้เสียหายเท่านั้น แต่พ่อ-แม่ผู้ตายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) แล้ว ดังนั้นคดีดังกล่าว จึงอยู่ในความรับผิดชอบของ บช.ก. เพื่อประสานอัยการนำตัวผู้ต้องหา ส่งฟ้องศาลตามขั้นตอนกฎหมาย” พล.ต.ต.วีรชนกล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.วีรชนกล่าวกรณีนายสันติ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ลงมือเพียงคนเดียวนั้น เป็นสิทธิของผู้ต้องหาให้การ หากมีใครร่วมขบวนการดังกล่าว ต้องสืบสวนสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง หากเป็นคนไต้หวัน ทางไต้หวันต้องสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายไต้หวันต่อไป

ด้านนายสุชาติ ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 63 ปี บิดานายสันติ กล่าวภายหลังนำตัวผู้ต้องหา มอบตัวกับเจ้าหน้าที่กองปราบ ว่า ตนได้ทำหน้าที่ของพ่อแล้ว หลังติดต่อกับนายสันติได้ ก็รีบนำบุตรชายมามอบตัวทันที ไม่ได้ถ่วงเวลาหรือปกป้องลูก พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้มีบารมี กว้างขวาง หรือมีอิทธิพลใดๆ หากมีจริง คงไม่นำบุตรชายมามอบตัวดังกล่าว

“คดีดังกล่าว ให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง ถ้าลูกทำผิดก็ต้องยอมรับโทษ ผมต้องยอมรับและทำใจให้ได้ เพราะครอบครัวเราเคารพกฎหมาย บ้านเมือง ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ผมขอเป็นจำเลยสังคมเพียงคนเดียว ไม่อยากให้ครอบครัวและญาติพี่น้องเดือดร้อน ส่วนการหาทนายเพื่อสู้คดีนั้น ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นสิทธิบุตรชาย ที่ต้องต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป” นายสุชาติกล่าว

Advertisement

“ขอกราบขอโทษในฐานะพ่อ ส่วนเรื่องคดีว่าไปตามผิดถูก โดยส่วนตัวตนเองอยู่ไทยและลูกชายอยู่ไต้หวัน เรื่องนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง แต่ในฐานะพ่อเมื่อลูกทำผิด ก็ขอพาลูกชายเข้ามอบตัว ไม่อยากให้คนในครอบครัวที่อยู่ข้างหลังมาเดือดร้อนกับการทำผิด  และลูกชายอายุ 35 แล้ว พ้นช่วงอายุที่จะสั่งหรือดูแลได้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็เสียใจ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ จึงพาลูกชายมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ”พ่อนายสันติกล่าว

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! มอบตัวแล้ว ‘สันติ’ มือสังหาร ผัวเมียที่ไต้หวัน เตรียมดำเนินคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image