เปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” รวบหนุ่มหื่นลวงเหยื่อวัย 14 ถ่ายโป๊ ใช้แบล็กเมล์จน ฆ่าตัวตาย

เปิดปฏิบัติการ ‘คอสเพลย์อวตาร’ รวบหนุ่มหื่นลวงลูกตำรวจวัย 14 ถ่ายโป๊เปลือย สลด! ใช้แบล็กเมล์จนเหยื่อฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 23 มิถุนายน พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม. บก.ปปป. และ บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการ “คอสเพลย์อวตาร” นำหมายค้นศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมตัวนายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัยใช้สื่อสังคมออนไลน์ และแพลตฟอร์มทางอินเตอร์เน็ต แสวงหาประโยชน์ทางเพศกับเด็กและสตรี

จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ้านพักสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายปิยบุตร กำลังเตรียมตัวจะออกไปทำงานนอกบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นขออนุญาตเข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เมื่อตรวจสอบข้อมูลภายใน พบไฟล์รูปภาพและคลิปวิดีโอโป๊ เปลือย หรือสื่อลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กเป็นจำนวนมาก พร้อมกับพบหมายเรียกเข้าให้ปากคำในคดีลักษณะดังกล่าวจากท้องที่อื่นๆ อีกหลายหมาย จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมคุมตัวมาทำการสอบปากคำ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

Advertisement

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งพร้อมครอบครัว เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ว่า น้องไข่มุก (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี บุตรสาวของตน ได้ถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นบัญชีแอคเคาท์แอพพลิเคชั่นดิสคอร์ด และทวิตเตอร์ปลอม หรืออวตาร ทักข้อความมาทำทีตีสนิท ก่อนล่อลวงให้ส่งภาพโป๊ให้แลกกับเงิน แต่เมื่อได้ภาพไปแล้วกลับนำภาพดังกล่าวมาข่มขู่แบล็กเมล์ ด้วยการให้วิดีโอคอล แล้วสั่งให้ทำในสิ่งที่ตนต้องการในทางลามกอนาจาร หากไม่ยอมทำตามจะนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่

จนทำให้ น้องไข่มุกเกิดความเครียดจนตัดสินใจผูกคอฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา หลังทราบเรื่อง ทางตำรวจ บก.ปปป. จึงประสานข้อมูลร่วมกับตำรวจ บก.ปคม. และ บก.ปอท. ร่วมกันแกะรอยสืบหาเบาะแสของคนร้ายรายนี้ จนทราบว่าเป็นนายปิยบุตร ทำงานเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง

Advertisement

จากแนวทางสืบสวนยังพบว่า แม้จะเกิดเรื่องสลดดังกล่าวขึ้น แต่ตัวนายปิยบุตรกลับไม่มีท่าทีสลด หรือสำนึกในความผิดของตัวเอง ยังคงมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวเช่นเดิม ล่อลวงเด็กสาวในกลุ่มคอสเพลย์ คนอื่นๆ ให้ส่งภาพโป๊เปลือยโชว์ของสงวนของลับมาให้ จากนั้นก็จะบันทึกภาพนั้นไว้ แล้วนำไปหาผลประโยชน์ให้ตนเอง ถือเป็นภัยร้ายต่อสังคม และ เยาวชน เจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยสืบหาพยานหลักฐานจนนำมาสู่การเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว

จากการสอบสวนช่วงแรก นายปิยบุตรให้การภาคเสธรับเพียงว่า เก็บคลิปภาพเด็กสาวในโทรศัพท์จริง แต่เป็นเด็กสาวที่เคยพูดคุยกัน หรือแฟนสาว รวมไปถึง ภาพที่เซฟบันทึกมาจากทวิตเตอร์ต่างๆ เพราะเป็นคนชอบสะสมภาพสาวแต่งคอสเพลย์ ไม่ได้มีการข่มขู่หญิงสาวเหล่านั้นแต่อย่างใด ก่อนที่ภายหลังจะยอมรับว่าเคยมีการข่มขู่เหยื่อว่าจะเอาภาพไปปล่อยตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามความผิดซึ่งหน้าก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ด.ต.ทรงภพ วันสี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี พ่อของน้องไข่มุก เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.

ด.ต.ทรงภพ เปิดเผยว่า ในฐานะตำรวจ รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลคดีดังกล่าวได้ หลังจากได้รับรู้เรื่องราว ได้เข้าไปหารือกับผู้บังคับบัญชา พยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งได้พูดคุยกับเพื่อนของลูกสาว และนำข้อมูลมามอบให้กับทาง บก.ปคม. และสืบสวนขยายผลต่อนาน 2 เดือน จนสามารถชี้พิกัด และเข้าจับกุมคนร้ายได้วันนี้ ส่วนในฐานะพ่อรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถดูแลปกป้องลูกสาวได้ ก่อนเกิดเหตุลูกสาวมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่ยอมไปไหนมาไหนด้วย กักตัวอยู่แต่ในห้อง จึงพยายามพูดคุยกับลูกสาว สอบถามจนทราบเรื่องราว และพบว่าก่อนหน้านี้ ลูกพยายามฆ่าตัวตายแต่ตนสามารถช่วยได้ทัน ทั้งนี้ ลูกสาวมีความชื่นชอบในเรื่องของคอสเพลย์ ตั้งแต่ช่วงประมาณ ป.6 อีกทั้งลูกสาวยังได้หาชุดมาให้ผู้แต่งคอสเพลย์รายอื่นเช่า และสามารถหารายได้นับหลักแสนบาท โดยตนและภรรยาได้เตือนให้ลูกระมัดระวังตัวเรื่องการแต่งคอสเพลย์​ถ่ายรูป เพราะ เกรงว่าจะไม่เหมาะสม ซึ่งลูกสาวได้รู้จักคนร้าย ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนมีนาคม

“ในฐานะพ่อ อยากบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า พ่อทำหน้าที่ของพ่อ ได้ดีที่สุดแล้ว แต่ลูกก็ไม่ควรจากพ่อไปไวขนาดนี่ ขอให้ลูกรู้ว่า พ่อยังรักลูกตลอดไป” ด.ต.ทรงภพ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขตกล่าวว่า พวกตนต่างเป็นพ่อคน ไม่รู้​ว่าเมื่อใดลูกจะตกเป็น​เหยื่อ​ของ​อาชญากรรม​ ดังนั้นจะนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งดำเนินการเพื่อปกปราม​อาชญากรรม​ลักษณะ​นี้​ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันอาชญากรรมในสื่อสังคมออนไลน์ โดยขณะนี้ ทาง บช.ก. ได้เตรียมมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีการเปิดโครงการป้องกันอาชญากรรมตามแนวตำรวจสมัยใหม่ โดยร่วมกับ กสทช. และมูลนิธิเกี่ยวกับเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนในสังกัด กทม. โดยตำรวจจะมีการทำคอนเทนท์ ส่งไปให้ครูตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อสอนเด็กให้เข้าใจถึงโทษภัยของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันภัยต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาภายในบ้านพัก พบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อีกกว่า 10 คน ซึ่งหลังจากนี้ ตำรวจจะเร่งเพื่อหาแหล่งปลายทางของคลิป รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีทั้งหมด พร้อมทั้งจะสอบสวนหาข้อมูลให้ได้ความชัดเจนว่าผู้ต้องหาเป็นสาเหตุของการตายของเหยื่อหรือไม่ ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง
โดยเบื้องต้น การกระทำของผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดฐาน “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรัยตนเองและผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ”

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image