‘สุนทร’ แจงลาออกปชป.เพราะเคมีไม่ตรงกัน ขอจบด้วยดี สมัครส.ส.พปชร. หวังแก้ปัญหายากจน

เวทีโซเชียลเดือด หลัง “สุนทร” ประกาศลงสมัคร ส.ส.พปชร. คอมเมนต์แน่น รอง เลขาฯ ปชป.ติงสื่อท้องถิ่นเสี้ยม ยอมรับเข้าใจดี

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเมืองในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศ นครศรีธรรมราช มี ส.ส. 9 คน ขณะที่ บรรดาว่าที่ผู้สมัครทุกพรรคการเมือง ต่างขึ้นป้ายแนะนำตัวเอง ลงพื้นที่พบประชาชน ขณะความสนใจเริ่มเบี่ยงเบนมาที่นายสุนทร รักษ์รงค์ สมาชิกปชป.ได้ประกาศลาออก ด้วยเหตุผล เคมีไม่ตรงกัน และสมัครเป็นสมาชิก พปชร.ในวันถัดมา ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

นายสุนทร รักษ์รงค์ สมาชิก พปชร. ผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ในเขต 6 กล่าวว่า หลังลาออกจากพรรคเก่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มีคนออกกล่าวหาและบิดเบือนข้อมูล ว่า ออกจากที่เดิมแล้วใส่ร้ายพรรคซึ่งไม่เป็นความจริง โดยตนให้เหตุผลในการลาออกสั้นๆว่า #เพราะเคมีไม่ตรงกัน ตนเป็นสุภาพบุรุษและนักเลงพอ ออกแล้วออกเลย ขอจากกันด้วยดี เพียงแต่ตนเป็นคนที่กล้าพูดความจริง เพราะความจริงมันพูดง่าย ไม่ต้องจำว่าเคยโกหกอะไรไว้ แม้ความจริงมันทำให้เราเจ็บปวด แต่ความจริงมันทำให้เราเติบโตเพื่อก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้

“ผมเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมมาอย่างยาวนาน เป็นนักปฏิบัติการทางสังคม ที่ชอบทำมากกว่าพูด ผมเริ่มต้นจากการทำการเมืองทางตรงในนามการเมืองภาคประชาชน ก็สามารถตอบสนองความต้องการของมวลชนระดับหนึ่ง แต่พอถึงจุดหนึ่ง ผมถอดบทเรียนการต่อสู้ที่ผ่านมา จึงสรุปได้ว่า ผมต้องเข้าสู่การเมืองระบบตัวแทนเพื่อไปใช้อำนาจรัฐ ในการสร้างข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อมาแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคม”  นายสุนทร กล่าว

Advertisement

ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการ ปชป.ในฐานะ ส.ส.ปชป.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมขอฝากไปถึงนักเลงคีย์บอร์ดและสื่อท้องถิ่นบางท่าน ที่กำลังปั่นกระแสอยู่ในขณะนี้เพื่อให้ผมมีความเข้าใจผิดกับพี่สุนทร รักษ์รงค์ ผมขอเรียนทุกท่านให้เข้าใจว่าผมกับพี่สุนทร ไม่ได้มีอะไรกันเพราะคบหากันมานานและที่สำคัญพี่สุนทรก็เป็นรุ่นพี่โรงเรียนผม อาจจะมีบางอย่างบ้างที่เห็นไม่ตรงกันก็แลกเปลี่ยนกันตามประสาพี่น้องไม่มีอะไรติดใจกัน เพราะฉะนั้นหยุดทั้งเสี้ยมผมให้ไปว่าพี่เขาและก็หยุดเสี้ยมพี่สุนทรให้มาว่าผม ถึงแม้ในช่วงเวลานี้ผมกับพี่เขาจะอยู่กันคนละพรรค นั่นคือการทำกิจกรรมทางการเมืองแต่ไม่สามารถทำลายมิตรภาพพี่น้องที่มีมายาวนานได้หรอกครับ เอาเวลาที่มีมาสร้างประโยชน์ให้สังคมเพื่อพัฒนาประเทศดีกว่าครับ ตามนี้นะครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image