ลุงวัย 65 มีสถานะ ‘ตายแล้ว’ นาน 12 ปี เสียสิทธิพึงมี ได้ทำบัตรประชาชนใหม่แล้ว ผู้ว่าฯนครสวรรค์รับระบบข้อมูลผิดพลาด ด้านพนักงานเก็บศพ คนแจ้งตาย เผยไม่มีเจตนา แจงชื่อของลุงและผู้ตายจริง เหมือนกัน
จากเรื่องราวการนำเสนอข่าวนายองอาจ บุญฤทธิ์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ถูกนายชูชาติ เดชกล้า เจ้าหน้าที่แผนกเก็บศพโรงพยาบาลโรคทรวงอก จ.นนทบุรี ไปแจ้งตาย และไปขอแจ้งออกใบมรณบัตร ในเขตพื้นที่เทศบาลนนทบุรี จนทำให้นายองอาจต้องตกอยู่ในสถานะคนตายอย่างไร้ตัวตนมานาน ตั้งแต่เมื่อปี 2540 ซึ่งได้ส่งผลทำให้นายองอาจต้องเสียสิทธิผลประโยชน์ในชีวิตไปในหลายๆ ด้าน
จนกระทั่งมีการนำเรื่องมาร้องต่อสื่อมวลชน จนเกิดเป็นข่าวครึกโคมก่อนที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์จะเร่งให้การช่วยเหลือ โดยสั่งการให้นายอำเภอเมืองนครสวรรค์เร่งดำเนินการตรวจสอบ พร้อมกับรับปากว่าวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ช่วงเวลา 09.00 น. นายองอาจจะต้องมีบัตรประชาชนใบใหม่ และต้องยกเลิกการตาย เพื่อคืนสิทธิให้กับเจ้าตัวไปใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม นายองอาจ บุญฤทธิ์ ได้เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวของบุตรชาย มาที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ พร้อมกับภรรยา เพื่อมาขอยื่นเรื่องทำบัตรประชาชนใหม่ และยกเลิกการถูกแจ้งตายในทะเบียนราษฎร ตามที่นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับปากเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
โดยทันทีที่นายองอาจเดินทางมาถึง เจ้าตัวมีสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างมาก โดยมีว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอเมืองนครสวรรค์ มาให้การต้อนรับ พร้อมกับอำนวยความสะดวก พาไปดำเนินการทำบัตรประชาชนใหม่ พร้อมกับทำเรื่องยกเลิกสิทธิการถูกแจ้งตายออกจากสารระบบทันที ซึ่งก็ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง นายองอาจได้เดินมาพบสื่อมวลชน พร้อมกับโชว์บัตรประชาชนใบใหม่ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขเป็นอย่างมาก
เวลาต่อมา นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้เดินทางมาสมทบ ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยมีการร่วมแสดงความยินดีที่นายองอาจจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติก่อนจะมอบพระบูชาหลวงพ่อปาน และเหรียญพระเครื่องของหลวงพ่อพัฒน์ ให้กับนายองอาจ เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันฤกษ์งามยามดีที่นายองอาจได้บัตรประชาชนใบใหม่ และมีชื่อกลับเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านตามสถานะคนปกติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เรื่องของนายองอาจนั้นเป็นความผิดพลาดของระบบข้อมูล ซึ่งพอตนทราบเรื่อง ก็รีบเร่งสั่งการให้นายอำเภอเมืองนครสวรรค์ดำเนินการตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือกับนายองอาจทันที
โดยต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ จ.นนทบุรี อำเภอเมืองนครสวรรค์ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต.พระนอน รวมถึงสื่อมวลชน ที่ร่วมกันให้ความช่วยเหลือในการคืนสถานะให้กับนายองอาจ ซึ่งถือว่าเร็วมาก เพียง 2 วัน ก็สามารถทำบัตรประชาชนใบใหม่ให้กับนายองอาจได้แล้ว ทั้งที่จริงๆ เมื่อวานนี้ ก็สามารถทำบัตรใหม่ให้กับเจ้าตัวได้เลยนะ แต่ติดที่ว่าเป็นวันหยุดทางราชการ จึงต้องใช้ฤกษ์งามยามดีในวันนี้แทน
ส่วนสิทธิต่างๆ ที่นายองอาจจะได้รับหลังจากนี้ นอกจากนายองอาจจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามสถานะปกติที่ไม่ใช่คนตาย มีบัตรประชาชน มีเอกสารหลักฐานในทะเบียนราษฎรครบสมบูรณ์ตามแบบคนทั่วไปแล้วนั้น ก็จะมีหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ เดินทางเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือในเรื่องสิทธิประโยชน์ของทางภาครัฐที่นายองอาจจะได้รับต่อไป
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอเมืองนครสวรรค์ ให้ข้อมูลของผู้ที่ไปแจ้งขอออกใบมรณบัตรของนายองอาจว่า จากการสอบสวน นายชูชาติ เดชกล้า เจ้าหน้าที่แผนกเก็บศพโรงพยาบาลโรคทรวงอก จ.นนทบุรี พบว่า เจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาทำความผิด ซึ่งเขาก็ทำตามหน้าที่ตำแหน่งงาน เพียงแต่ในวันแจ้งตายนั้น นายชูชาติได้แจ้งเพียงแค่ชื่อนามสกุลของผู้ตายจริง ซึ่งตรงตามชื่อจริงของนายองอาจ แต่ไม่ได้มีการกรอกออกสารระบุเลขบัตรประชาชนเอาไว้ และเมื่อส่งเข้าไปในระบบทะเบียนราษฎร ก็ เกิดความผิดพลาดเรื่องของกระบวนการตรวจสอบข้อมูล ที่สุดท้ายมีการนำเลข 13 หลักของนายองอาจที่ยังมีชีวิตอยู่มาใช้ จึงทำให้นายองอาจต้องอยู่ในสถานะเป็นคนตาย
ซึ่งเมื่อวานนี้ นายชูชาติก็ได้มีการแสดงความเสียใจ และก็ได้มีการขอโทษนายองอาจที่ต้องทำให้ให้เสียสิทธิไปในหลายๆ อย่าง แต่ทางเขาก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนา เพียงแต่ทำหน้าที่ไปตามตำแหน่งงาน และในขณะนั้นก็ได้รับข้อมูลของผู้ที่ตายจริง ที่มีเพียงแค่ชื่อและนามสกุลเท่านั้น ไม่ได้มีการแจ้งระบุเลขประจำตัว 13 หลัก ในวันที่แจ้งตายแต่อย่างใด