ชาวบ้านงงแนวคิดใช้วิทยุทรานซิสเตอร์ ลั่นเป็นเรื่องตกยุค
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม จากกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.) ที่ผ่านมา ระหว่างประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านวิดีโอคอลล์ แนะนำให้ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์แจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมปี 2565 หากระบบการสื่อสารอื่นๆ ล่ม
ทางนายกรัฐมนตรี เผยว่า การสื่อสารด้วยวิธีนี้มีการนำมาใช้แล้วเมื่อปี 2554 เมื่อมีการตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วม จนกลายเป็นไวรัล วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้างในโลกโซเชียล
อ่าน : นายกฯแนะ ใช้วิทยุทรานซิสเตอร์เตือนประชาชน หากสื่อสารล่ม ชี้ เคยได้ผลปี’54
ล่าสุดช่วงเช้า วันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ร้านขายวิทยุทรานซิสเตอร์ ในตัวเมืองชัยนาท พบว่าบรรยากาศสุดเงียบเหงา
โดย เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ยอดขายวิทยุทรานซิสเตอร์นั้นไม่ดีเหมือนสมัยก่อน เพราะคนสมัยใหม่หันไปใช้โลกออนไลน์ในการเสพข่าวสารกันเป็นส่วนใหญ่ จะยังพอขายได้ก็กับลูกค้ากลุ่มชาวไร่ ชาวสวน ชาวนา และผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะมาหาซื้อเครื่องใหม่ เพราะเครื่องเก่าพัง แต่ละเดือนจะขายได้แค่ 1-2 เครื่อง โดยราคาขายวิทยุทรานซิสเตอร์ปัจจุบันอยู่ที่ 590 บาท สำหรับใส่ถ่าน 690 บาท ใช้ได้ทั้งถ่านและไฟบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ได้ฟังข่าวสารผ่านวิทยุ มานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะหันมาใช้โทรศัพท์มือถือ ในการอ่านหรือติดตามข่าว และเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนลำโพงบลูทูธที่มีฟังก์ชั่นวิทยุมาให้ ก็จะใช้งานเสียบแฟลชไดร์ฟ ฟังเพลงเสียส่วนใหญ่ ไม่เคยเข้าไปเปิดโปรแกรมฟัง วิทยุ FM หรือ AM เลยสักครั้งเดียว เพราะโลกปัจจุบันวิทยาการสมัยใหม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของชาวบ้านไปแล้ว การที่เอาแนวคิดใช้วิทยุทรานซิสเตอร์มาปัดฝุ่น จึงถูกมองว่าตกยุคและถอยหลังลงคลอง
(ชมคลิป)