เปิดข้อมูลใหม่ เด็กที่ตายเป็นลูกติดแฟน แม่โชว์ใบปริญญา จบนิติฯ เกียรตินิยมอันดับ 2
จากกรณีโศกนาฏกรรม ที่นำความเสียใจมาสู่คนทั้งโลก กับเหตุ อดีตตำรวจกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 ราย โดย มีเด็ก 24 ราย นำมาซึ่งการถกเถียงกันถึงโครงสร้างกระบวนการยุติธรรม และ ยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่เจอตัวมารดา เนื่องจากตำรวจได้เชิญตัวไปสอบปากคำ แต่ได้เจอกับน้าของผู้ก่อเหตุ ซึ่งน้าได้ยกมือไหว้ผ่านกล้อง ขอโทษทุกคน โดยว่า
“ขอกราบขอโทษทุกคนที่ต้องสูญเสีย ที่ต้องสูญเสียพี่น้อง ลูกหลาน ต้องกราบขอโทษขออภัยแทนแม่ของนายแมนด้วย ที่ทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองล่มจม ทำให้สูญเสียญาติพี่น้องลูกหลานทุกๆคน”
น้าของผู้ก่อเหตุ ยังยอมรับหลานติดยา แต่ไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้เห็น เชื่อว่าเพราะเครียด เพราะโดนไล่ออกจากราชการ แม่ของผู้ก่อเหตุสภาพจิตใจก็ย่ำแย่มาก จะเป็นลมตลอดเวลา เคยขู่ฆ่าตำรวจทั้งโรงพัก
“ทราบว่าติดยาเสพติด เป็นตำรวจด้วย ไม่รู้นานยัง เขาพูดจาดี ไม่มีวี่แววก่อเหตุ เคยพูดว่าจะฆ่าตำรวจทั้งโรงพัก ช่วงลาออก”
มีรายงานด้วยว่า แฟนสาวที่เสียชีวิตในบ้าน เป็นแฟนใหม่ที่คบหากันได้ 2-3 ปี ส่วนเด็กชายที่โดนยิงไม่ใช่ลูกของผู้ก่อเหตุ แต่เป็นลูกติดของแฟนสาว
ขณะที่ แม่ ยังเล่าว่าเช้าวันเกิดเหตุ ก่อนลูกจะไปก่อเหตุเพิ่งพาลูกเดินทางไปที่ศาล จ.หนองบัวลำภู ในคดียาเสพติด สังเกตลูกน่าจะมีการเสพยาไปด้วย เพราะมีสีหน้าค่อนข้างเครียดพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยตอนอยู่ที่ศาลลูกมาพูดแปลกๆว่า “แม่ขอโทษ ป่านนี้ผมยังไม่ได้ตอบแทนพระคุณของแม่เลย” ก็รู้สึกแปลกใจเพราะปกติลูกจะไม่เคยคุยอย่างนี้
เหตุที่เกิดขึ้นตนขอแสดงความเสียใจกับทุกครอบครัวที่ลูกชายไปก่อเหตุ และอยากให้อโหสิกรรมให้ลูกชายตัวเองด้วยถือว่าเป็นกรรมเป็นเวรมาแต่ชาติปางก่อน
“จะเป็นลม แม่จะเป็นลมตาย เสียใจมากที่สุดในโลก ไม่มีอะไรเทียบเท่า รู้สึกเสียใจ รู้สึกว่า กรรมเวรอะไรนักหนา”
แม่ ยังเปิดเผยว่า ลูกชายเรียนจบปริญญาตรีได้เกียรตินิยมอันดับสอง คณะนิติศาสตร์ เขาเป็นคนเรียนเก่ง และก็เอาใบเกียรตินิยมฉบับนี้ไปให้ศาลฯ ดูเพื่อให้พิจารณาลดโทษลูกชายด้วย
เมื่อคืนนี้ลูกชายเพิ่งทะเลาะกับภรรยาของเขา แต่ตัวเองไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเพราะปกติก็จะทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง ตัวเองเพิ่งมาทราบข่าวว่าลูกชายไปก่อเหตุเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดยลูกก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยหรือมาหาตัวเองหลังเกิดเหตุแต่อย่างใด
ที่มา ทุบโต๊ะข่าว , เที่ยงวันทันเหตุการณ์
