ผู้ปกครองห่วงลูกหลาน ส่งเข้าศูนย์น้อยกว่าปกติ นายก อบต.แก่งเสี้ยน ชี้ยาเสพติดปัญหาใหญ่ระดับประเทศ
จากกรณี ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีต ผบ.หมู่งาน ป. สภ.นาวัง อายุ 34 ปี บุกเข้าไปภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู แล้วก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงทำให้เด็กรวมทั้งผู้ใหญ่เสียชีวิตจำนวน 37 ศพ จนกลายโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาก่อน ล่าสุดวันนี้ 7 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์บรรยากาศที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่ในเขต อ.เมืองกาญจนบุรี โดยทางครูแจ้งว่า วันนี้ผู้ปกครองมาส่งเด็กน้อยกว่าปกติ จากเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นกับศูนย์เด็กเล็กที่ จ.หนองบัวลำภู และจากการสอบถามบรรดาผู้ปกครองที่ไปส่งบุตรหลาน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกสลดหดหู่หัวใจมากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าประเทศไทยจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
พร้อมได้กำชับกับทางศูนย์ ว่าช่วยดูแลบุตรหลานของตนเองให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังพบบางรายภรรยาให้สามีเป็นผู้ไปส่งลูก ได้โทรศัพท์ไปสอบถามสามีว่าได้ส่งลูกถึงห้องเรียนหรือไม่ เพราะต่างก็เกิดความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเกรงว่าจะเกิดกับบุตรหลานตนเอง ทำให้สถานการณ์ส่วนใหญ่ยังคงตกอยู่ในความหวาดวิตก
ส่วนครูที่ดูแลศูนย์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นว่า เรื่องนี้ทางศูนย์ได้มีมาตรการป้องกันเข้มงวดมากยิ่งขึ้น พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย รวมถึงได้มีการแต่งกายชุดดำ รวมถึงการลดธงครึ่งเสา เพื่อแสดงอาลัยกับผู้เสียชีวิต
นายจักกฤช มหากิจวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า อบต.แก่งเสี้ยน รวมทั้งประชาชนชาวตำบลแก่งเสี้ยน ต้องขอแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู
สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.แก่งเสี้ยนนั้นเดิมทีมีมาตรการดูแลความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ต่อจากนี้ไป ทาง อบต.แก่งเสี้ยนจะหามาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นด้วยการประสานไปยัง พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้ง พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้มาสร้างป้อมที่หน้าศูนย์พัฒนาเด็ก และขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาประจำ หรือให้เจ้าหน้าที่สายตรวจมาตรวจสอบเป็นประจำทุกๆ 3 ชั่วโมง ซึ่งจะเพิ่มความอุ่นใจให้กับเด็กๆ รวมทั้งครูและผู้ปกครอง
โดยในปีงบประมาณหน้า ทาง อบต.แก่งเสี้ยนมีแผนการว่าจะสร้างรั้วล้อมรอบพื้นที่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้มีความปลอดภัยขึ้น ส่วนตัวอยากจัดจ้าง รปภ.ให้เข้ามารักษาความปลอดภัย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ซึ่งต้องมาดูว่าจะสามารถของบสนับสนุนจากหน่วยงานไหนได้บ้าง เช่น ขอสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ หรือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แต่หากในอนาคต อบต.แก่งเสี้ยนสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ก็จะจัดสรรงบประมาณสำหรับจัดจ้าง รปภ. ให้มาดูแลความปลอดภัยที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้กำชับให้ครูใส่ใจเกี่ยวกับการเปิดปิดประตูในช่วงรับนักเรียนเข้าศูนย์และช่วงช่วงเย็นที่ญาติหรือผู้ปกครองมารับเด็กๆ กลับบ้าน จะต้องระมัดระวังและคอยสังเกตให้ดี และหลังจากนี้ตนจะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีมาอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย ทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็นต่อไป
ส่วนกรณีที่ อดีตตำรวจยศ ส.ต.อ.ที่ไปก่อเหตุเสพยาบ้าไปด้วยนั้น เรื่องนี้การแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้นตนมองว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นนายก อบต.แก่งเสี้ยน ได้พยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ขอยอมรับว่าปัญหายาเสพติดนั้นยังไม่หมดไปจากพื้นที่ อบต.แก่งเสี้ยน
อดีตที่ผ่านมาเคยมีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง โดยผู้จำหน่ายมีทั้งจำหน่ายให้กับลูกค้ารายย่อย มีทั้งใช้เป็นพื้นที่พักยาเสพติด ซึ่งตนได้มอบนโยบายให้กับ ส.อบต.แต่ละหมู่บ้าน รวมทั้งรองนายก อบต.และคณะผู้บริหาร ให้คอยสอดส่งดูแลมาโดยตลอด
อีกทั้งยังประสานขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ตร.สืบ สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้เข้ามาสืบสวนสอบสวนในการหาหลักฐานจับกุมกลุ่มผู้ค้าตลอดเวลา แต่ก็ยังคงมีหลงเหลืออยู่