วันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 นายวิเชียร พวงลำเจียก อดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีให้นโยบายล่าสุด ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อรณรงค์ให้ชาวนาที่ปลูกข้าว ได้แบ่งผลผลิตเป็น 3 ส่วน คือ 1.ไว้ทำพันธุ์ 2.บริโภค และ 3.ขายนั้น ถือเรื่องที่ดีมาก และต้องขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ ที่เดินหน้าช่วยเหลือชาวนามาโดยตลอด ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม นายวิเชียรกล่าวว่า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากบอก รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าการกำหนดนโยบายช่วยเหลือชาวนานั้น ควรให้รอบด้านเพราะว่า พื้นที่การเพาะปลูกและพันธุ์ข้าวของเรา ไม่ได้เหมือนกันทั้งประเทศ และที่ชัดเจนคือมี 3 รูปแบบ คือ แบบแรกคือปลูกข้าวเหนียว แบบที่ 2 คือข้าวหอมมะลิ ทางภาคอีสานและภาคเหนือ และแบบที่ 3 ทางภาคกลาง คือปลูกข้าวจ้าวทั่วไป หรือข้าวนาปรัง ซึ่งข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว สามารถทำตามที่รัฐบาลรณรงค์ได้ แต่ข้าวนาปรัง หรือข้าวจ้าวทั่วไปนั้น ทำไม่ได้ เพราะว่า ภาคกลางไม่มีโรงสีขนาดเล็ก และข้าวนาปรัง เมื่อสีเป็นข้าวสาร แล้วคนในประเทศไม่นิยมบริโภคกันเท่าใด จึงต้องอาศัยตลาดจากประเทศกำลังพัฒนา หรือตลาดที่ซื้อไปแปรสภาพเป็นแป้งข้าวจ้าว หรือ ไปทำส่วนผสมอาหารสัตว์
“อีกทั้งจะให้ชาวนาภาคกลาง เปลี่ยนไปปลูกข้าวหอมมะลินั้น เคยลองแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ต้นข้าวไม่โต ผลผลิตไม่ดี ดั้งนั้นหากจะให้ดี ควรมีการคิดพัฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้ปลูกในภาคกลางได้ รวมถึงเวลากำหนนโยบายหรือแนวทางแก้ไขปัญหา ควรแยกประเภทการช่วยเหลือ ในแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน” นายวิเชียรกล่าว