ชาวบ้านให้กำลังใจ ปลัดอำเภอสัตหีบ สู้สู้ หลังถูกบุกจับคาตู้บริจาคเงิน น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
จากกรณี ผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า พื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แจ้ง ตร.ปปป. ตลบหลัง จนท.ฝ่ายปกครอง โดยนำเงินใส่ซองใส่ตู้บริจาค ก่อน ตร.ปปป.จะกรูเข้าจับกุม กลางที่ว่าการอำเภอสัตหีบ พร้อมนำตัวมายัง สภ.สัตหีบ กล่าวหาในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเอง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
และทางด้าน นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ได้รายงานให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบ เบื้องต้น และให้นิติกรไปดูแลในรายละเอียด แต่ที่ดูจากรายงานผลการจับกุม น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้ และขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมดก่อน
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 31 ตุลาคม ได้มีประชาชนในพื้นที่อำเภอสัตหีบ รวมตัวกันมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อมตะโกนส่งเสียงให้ ป.อาวุโส สู้ๆๆ
โดย นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ ได้กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจต่อกำลังใจที่พี่น้องประชาชนชาวอำเภอสัตหีบมอบให้ในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณต่อพี่น้องประชาชนทุกคนว่า ผมขอยืนยันว่าผมทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ในอำเภอสัตหีบ ขอให้ทุกคนมั่นใจในตัวผมว่าผมไม่มีเรื่องอย่างนั้นแน่นอน ผมรักทุกคนรักชาวอำเภอสัตหีบ และผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ผมจะพิสูจน์ในความบริสุทธิ์ของผม
หลังจากนั้นผมจะกลับมารับใช้ชาวพี่น้องอำเภอสัตหีบต่อครับ และขอบคุณทุกคนมากๆ ที่มาให้กำลังใจในวันนี้ ท่ามกลางชาวบ้านที่เข้ามอบดอกกุหลาบเพื่อเป็นกำลังใจและเสียงตะโกน ป.อาวุโสสู้สู้ อยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่ ผู้แทนชาวบ้าน ตำบลแสมสาร อ.สัตหีบ ได้กล่าวว่า ขอให้คนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้คิดให้ดีๆ ท่านทำด้วยความหวังดีกับคนชาวตำบลแสมสาร โดยก่อนหน้านี้ท่านได้เข้าไปสำรวจเพื่อซ่อมบ้านให้กับผู้ยากไร้ และคนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ไม่สมควรทำ ไม่มีจิตใจที่เป็นมนุษย์ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกับ ป.อาวุโสตลอดไป ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
ล่าสุดมีรายงานว่า นายกัณฑ์พงษ์ สุวรรณปทุมเลิศ ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี และให้นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดอาวุโส อ.เกาะจันทร์ มาทำหน้าที่ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ แทน
สืบเนื่องจากทาง บก.ปปป.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่า ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพัก Pool villa ในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการให้ผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมายแล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคระบุตัวหนังสือหน้าตู้ ที่จัดเตรียมไว้ให้อ้างว่าเป็นค่าดําเนินการ ซึ่งจะคิดอัตรา บ้านพักหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับการออกใบรับรองให้ หรือยื้อเวลาในการออกใบรับรองจนกว่าจะนําเงินมาจ่าย ทั้งที่โดยปกติการขอใบรับรองบ้านพัก Pool villa นั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงจัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจนทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน อาทิ มีหน้าม้าทำหน้าที่พาผู้ประกอบการมาทำเรื่องขอใบรับรอง คนรับเรื่องดำเนินการ และคนนำเงินออกจากตู้บริจาค
จากการตรวจสอบรายละเอียดของเงินบริจาค พบว่าไม่มีการแจ้งวัตถุประสงค์เปิดรับบริจาคที่ชัดเจน คล้ายกับการจัดทำขึ้นมาเพื่อใช้หลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่ไปที่มาของเงิน อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนเชื่อว่า ที่ผ่านมาน่าจะมีการกระทำพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในที่ทำการอำเภอสัตหีบ ก่อนพบตู้บริจาคเงินภายในห้องทำงานของ นายกัณฑ์พงษ์ และ น.ส.สุภาพร ตรวจสอบภายในตู้พบธนบัตรเงินสด จำนวน 28,000 บาท คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีรายชื่อผู้ยื่นขอใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนคุมตัวทั้งสองพร้อมกับพยานอีกราย มาสอบปากคำอย่างละเอียดยัง บก.ปปป.
จากการสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน โดยหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป.จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสํานวนส่งต่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งต่อมา นายธวัชชัย ศรีทอง ผวจ.ชลบุรี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบ เบื้องต้นให้นิติกรไปดูแลในรายละเอียด แต่ที่ดูจากรายงานผลการจับกุม น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง อะไรมากกว่านี้ ก็ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องทั้งหมดก่อน