เตือนภัย แก๊งขับรถเบียดตบทรัพย์ ลุงวัย 68 ปี ตกเป็นเหยื่อ สูญ 2,000 บาท

เตือนภัย แก๊งขับรถเบียดตบทรัพย์ ลุงวัย 68 ปี ตกเป็นเหยื่อ สูญ 2,000 บาท

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีมีลูกสาวผู้เสียหาย ออกมาโพสต์เตือนภัยผ่านสื่อโซเชียล กรณี นายสมฤทธิ์ หรือลุงฤทธิ์ อายุ 67 ปี อาชีพเกษตรกร ชาว ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ถูกแก๊งมิจฉาชีพขับรถประกบเบียด หรือที่เรียกว่าแก๊งตบทรัพย์ ทำให้เกิดความเสียหาย และมีการเจรจาตกลงจ่ายค่าความเสียหาย เป็นเงิน จำนวน 2,000 บาท แต่ผู้เสียหายยังอยู่ระหว่างอาการตกใจในช่วงเจรจา จึงคิดไม่ทันที่จะแจ้งตำรวจ และยินยอมเสียค่าใช้จ่ายให้คู่กรณีไป เพื่อให้จบเรื่อง

จนกระทั่งมาทบทวนภายหลัง มั่นใจว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ และมีการก่อเหตุเป็นขบวนการ มีรถทั้งหมด 3 คัน ทำหน้าที่ช่วยกันประกับ ก่อนใช้รถเก๋งชนเบียดบริเวณท้ายรถยนต์ กระบะของผู้เสียหาย และมีการจอดรถเจรจาพูดคุย เรียกค่าเสียหาย โดยผู้เสียหาย ยอมเสียเงินถือว่าทำทาน เพราะเสียรู้ แต่ให้ลูกสาวออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมเตือนภัยสังคม ไม่อยากให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝากเตือนหากประสบเหตุให้แจ้งตำรวจมีตรวจสอบ เจรจา เพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสตบทรัพย์

ภายหลังทางผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริง พูดคุยกับ ลุงฤทธิ์ อายุ 68 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ขณะตนขับรถยนต์กระบะโตโยต้า สีแดง รุ่นเก่า ออกมาจากบ้านกล้วย ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม มุ่งหน้าเข้าไปยังตัวเมืองนครพนม เพื่อไปทำธุระส่วนตัว เป็นถนน 4 เลน พอถึงช่วง บ้านดงหมู ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถยนต์เก๋ง ขับตามมา 3 คัน มีคันแรก เป็นรถยนต์เก๋ง โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ไม่สามารถจำหมวดอักษร และป้ายทะเบียน จำได้เพียง ป้ายทะเบียน กทม. ได้ขับบี้มาด้านหลัง ตนจึงขับไปเลนขวา จากนั้นมีรถเก๋งอีกคัน มาประกบด้านหลัง พร้อมขับจี้ท้าย บีบแตรไล่ ส่วนรถเก๋งคันก่อเหตุ ได้ประกบตีคู่มาตลอด จนกระทั่งตนรู้สึกผิดปกติจึงขับออกเลนซ้าย จนกระทั่งรถยนต์คันก่อเหตุ ได้ขับมาเบียดชนท้าย ด้านขวา มีรอยเฉี่ยวชน นิดหน่อย ก่อนที่รถเก๋งคันที่ไล่บี้บีบแตรขับหนีไป ส่วนรถคันก่อเหตุ ขับไปจอดรอริมถนน

ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนจึงจอดลงไปคุยเจรจา โดยทางเจ้าของรถเก๋งคันก่อเหตุ เป็นหญิง อายุ ราว 30 ปี เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 3,000 บาท ตนจึงต่อรอง ว่าไม่มีเงิน และเจรจาจบกันที่ 2,000 บาท โดยไม่ได้ติดต่อตำรวจมาพูดคุยตรวจสอบ เพราะคิดไม่ทัน และไม่อยากมีเรื่องเพราะมาคนเดียว จึงยอมเสียเงินให้เรื่องจบ

Advertisement

จนมาทบทวนภายหลัง จึงมั่นใจว่าเป็นแก๊งตบทรัพย์ และยอมเสียเงินทำทาน ถือว่าฟาดเคราะห์ และไม่ขอแจ้งความกับตำรวจ เพราะไม่มีหลักฐานภาพบันทึกเหตุการณ์ เนื่องจากโทรศัพท์รุ่นเก่าไม่สามารถบันทึกภาพ และถ่ายคลิปไว้ได้ แต่ต้องการออกมาแฉพฤติกกรรมเตือนภัยสังคม ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อซ้ำอีก เชื่อว่า แก๊งดังกล่าวจะเลือกคนก่อเหตุ กับผู้สูงอายุ และชาวบ้าน ที่รู้ไม่ทัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image