‘เพื่อไทย’ รับฟังปัญหาแม่ริมปรับหาวิธีแก้ได้ตรงจุด ดันขยายสนามบินเชียงใหม่ขยายรายได้การท่องเที่ยวให้ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยว และกลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เสียงใหม่ พรรค พท. นายพานทองแท้ ชินวัตร โดย น.ส.แพทองธาร
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงคณะของพรรคเพื่อไทยและน.ส.แพทองธาร ได้ร่วมทักทายถ่ายภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง และเยาวชนนักฟุตบอลของคริสต์ เอฟซี อะคาเดมี่ ของม่อนแจ่มซึ่งก่อตั้งและผลิตนักฟุตบอลส่งให้สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย และยังผลิตนักเตะทีมชาติไทย อย่าง นายอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ นักฟุตบอล ทีมสโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ดที่อยู่ในไทยลีก
จากนั้น น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะพรรค พท. ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ หารือตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวม่อนแจ่ม และ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตัวแทน ผู้ประกอบการได้สะท้อนปัญหาว่า การท่องเที่ยว 9 เดือนแรกของปี 2565 จังหวัดเชียงใหม่ทำรายได้กว่า 38,000 ล้านบาท และเป็นจังหวัดที่ฟื้นตัวของประเทศ รายได้จากการท่องเที่ยว ที่ผ่านมารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีนโยบายเที่ยวเมืองรองคนละครึ่งช่วยผลักดันเศรษฐกิจในระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นการผลักดันที่ยั่งยืน ในปัจจุบันธุรกิจร้านคาเฟ่กาแฟ โฮมสเตย์กำลังจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากถามพรรค พท.ว่ามีนโยบายด้านการท่องเที่ยวอย่างไร อีกทั้งตอนนี้ตัวแทนได้ฝากถึงประเด็นด้านการท่องเที่ยวที่ผู้บริโภคได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้ว เพราะมีการเลือกปฏิบัติของระบบราชการในเรื่องที่ดินเรื่องการท่องเที่ยวที่ยังไม่มีการเน้นเรื่องการท่องเที่ยวในภาพเล็ก แต่กลับเน้นการท่องเที่ยวแบบภาพใหญ่
จากนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ในเรื่องรัฐบาลปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกันเป็นการแก้ปัญหาในช่วงโควิด-19 ระยะสั้นตนทำธุรกิจโรงแรมมาก่อนเราสู่กันเลย ทำให้โรงแรมได้ประโยชน์และไม่ใช่การแก้ปัญหาในระยะต้นระยะพรรคเพื่อไทยมีการแก้ปัญหาระยะยาวถาวรจะมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อที่พี่น้องเจออยู่ทุกวันนี้โดยการแก้ปัญหาระยะยาวจะเกิดขึ้นแน่ โดยเฉพาะปัญหาที่ดินทำกินและก็มีปัญหาในเขตป่าไม้ ดังนั้นต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการแบ่งเขตแบ่งเส้นทางนี้พรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายที่จังหวัดเชียงรายแล้ว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาแบ่งเส้นทำให้ประชาชนได้ที่ดินทำกินที่เหมาะสมส่วนคนไม่มีที่ทำกินก็จะจัดให้อย่างเหมาะสม
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรค พท.อยากให้จ.เชียงรายและเชียงใหม่เป็นเมืองคู่แฝดและการท่องเที่ยวแล้วจะทำรถไฟความเร็วสูงถึง จ.เชียงใหม่ ในภาคเหนือ จ.เชียงไหม่ทำรายได้เป็นอันดับ 4 ของประเทศ ทำให้พรรค พท.เห็นศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว พรรคเพื่อไทยยังมองเห็นการขยายสนามบินขยายสนามบิน ทั้งนี้ไม่ได้เพิ่มสนามบิน แต่จะต้องดูรายละเอียดในนโยบายอีกครั้ง แต่ต้องทำสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดอาชีพใหม่ใหม่จากการท่องเที่ยว ในตัวของม่อนแจ่มมีชื่อเสียงมากพอสมควรอยู่แล้วถ้าเราเปิดทางให้ จ.เชียงใหม่ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นเกิดการจ้างงานมากขึ้น
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า ถ้าทำนโยบายขยายสนามบินจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและให้ประชาชนมีโอกาสรองรับนักท่องเที่ยวและขอฝากพรรค พท.ในการเลือกตั้งด้วยเพื่อผลักดันนโยบายดีๆ ถ้าพรรค พท.ได้เป็นรัฐบาล
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พท. ตามมา การตัดน้ำตัดไฟในม่อนแจ่มเป็นสิ่งที่พรรค พท.ยอมรับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ซึ่งตนเห็นว่าคนต้องอยู่กับป่าได้ครั้งนี้ก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างโอกาสสร้างรายได้ขยายความเจริญให้กับประเทศชาติโดยพรรค พท.เป็นพรรคที่ได้ประกาศที่ประกาศนโยบายสร้างรายได้ใหม่ คนม่อนแจ่มก็มีซอฟต์พาวเวอร์เพราะได้ส่งนักฟุตบอลไปสโมสรต่างๆ
ด้าน นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ม่อนแจ่มมีซอฟต์พาวเวอร์โดยการส่งนักฟุตบอลไปยังสโมสรฟุตบอลต่างๆ โดยพรรคเพื่อไทยจะทำเขตเศรษฐกิจใหม่โดยให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดนำร่อง พรรค พท.จะใช้ ม่อนแจ่มเป็นนำร่องโดยการออกกฎหมายใหม่มาข้อกฎหมายปัจจุบันเพื่อปรับแก้กลไกให้นำไปสู่ธุรกิจ ตนขอเสนอลงสมัคร ส.ส.เพื่อเป็นตัวแทนในเขตอำเภอแม่ริม สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ยืนยันผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนจะยืนข้างประชาชนไม่ว่าจะอยู่เขตไหนในจังหวัดเชียงใหม่ โดยนโยบายของพรรค พท.เนี่ยตอบโจทย์เพียงแต่ว่าต้องเป็นรัฐบาลให้ได้
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่พรรค พท.จะขยายสนามบินและจะมีมาตรการหลายหลายอย่างเหมือนที่ทั้งสองได้ทวงถามได้บอกไว้โดยพรรค พท.ไม่สามารถแจกแจงเป็นรายข้อได้ แต่แจกแจงได้ว่าเราหัวใจเดียวกันทั้งนี้พรรค พท.ได้สัมผัสถึงปัญหาของพี่น้องได้ ทั้งที่ผ่านมาพรรค พท.ก็ถูกกระทำอยู่หลายครั้งจึงให้ความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลพรรค พท.ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรค พท.จะอยู่ข้างประชาชนโดยใช้กลไกรัฐดูแลมอบประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ส่วนใครจะเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้นต้องฟังจาก นพ.ชลน่าน ได้
จากนั้น น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการพูดคุยกับผู้ประกอบการว่า ดีมาก เราได้มารับทราบปัญหาที่ประชาชนเจอ ซึ่งเป็นการรับทราบปัญหาเชิงลึกทำให้เราแก้ปัญหาได้ตรงจุด และเชื่อว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาได้
จากนั้นเวลา 14.00 น. เยี่ยมชมศูนย์เฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่