วันที่ 10 มกราคม สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา ได้แก่ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ สิงหนคร และควนเนียง ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต แม้ระดับน้ำที่ท่วมจะยังทรงตัว แต่อยู่ในระดับที่สูง 30 เซนติเมตร-1 เมตร และยังทำการระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยได้ช้า เนื่องจากประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง โดยการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยยังไม่ทั่วถึง จากการตระเวนตรวจสอบสภาพน้ำท่วมของผู้สื่อข่าวพบว่า ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลตะเครียะ ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน แต่ชาวบ้านบอกว่าประสบปัญหาน้ำท่วมมาแล้ว 5 วัน แต่การช่วยเหลือยังมาไม่ถึง โดยเฉพาะชุมชนที่ตั้งอยู่ริมคลองตะเครียะ ด้านหลังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หมู่ 3 ตำบลตะเครียะ ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร มีบ้านเรือนประชาชนอยู่ 8 หลังคาเรือน ที่เดือดร้อนหนัก ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยทั้ง 8 หลังนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปไหนได้
นายอุดล คงจันทร์ ชาวบ้านที่เดือดร้อนบอกว่า ตนเองต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ออกมาทำงานทุกวัน เนื่องจากไม่มีเรือ และยังไม่มีหน่วยงานใดมาเยี่ยมและช่วยเหลือมอบถุงยังชีพเลย โดยตั้งแต่น้ำท่วมชาวบ้านที่นี่ก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไปตามประสา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือ โดยน้ำที่ท่วมในครั้งนี้นั้นรุนแรงในรอบ 12 ปี เทียบเท่าปี 2548 แม้จะไม่ได้มีฝนตกในพื้นที่มากนัก แต่เป็นน้ำที่มาจากจังหวัดพัทลุงและนครศรีธรรมราช ที่ไหลมาพักในทะเลสาบสงขลาก่อนจะระบายออกสู่อ่าวไทย
