มรดกที่ดินเลือด หลานกระหน่ำยิงอาดับ 2 ศพ ก่อนเข้ามอบตัว อ้างเหลืออด

มรดกที่ดินเลือด หลานกระหน่ำยิงอาดับ 2 ศพ เข้ามอบตัวรับสารภาพ เผยไม่อยากทำญาติน้องกันทั้งนั้น แต่เหลืออดถูกด่าถูกไล่มาต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มกราคม ร.ต.อ.จรัญ ประยูร รอง สว.สอบสวน สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณบ้าน ม.10 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณริมถนนทางเข้าบ้านหลังดังกล่าวพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายพายัพ เอี่ยมผ่อง อายุ 60 ปี และนางพะเยาว์ เอี่ยมผ่อง อายุ 56 ปี สองพี่น้อง นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้กัน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่จำนวน 3 ปลอก สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพิสิษฐ์ เอี่ยมผ่อง อายุ 41 ปี หลานของผู้เสียชีวิต ซึ่งได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 08.00 น. ผู้เสียชีวิตทั้งสองรายได้ออกจากบ้านมาเพื่อวิดน้ำออกจากนา บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของนายประยูร เอี่ยมผ่อง ซึ่งเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย และเป็นบิดาของนายพิสิษฐ์ ผู้ก่อเหตุ โดยในตอนที่เกิดเหตุนางละเอียด เอี่ยมผ่อง อายุ 63 ปี พี่สะใภ้ผู้เสียชีวิต และแม่ของผู้ก่อเหตุ ได้ทำกับข้าวอยู่ด้านหลังบ้าน ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงได้วิ่งออกมาดูพบผู้เสียชีวิตทั้งสองคนนอนตายอยู่ โดยนายพิสิษฐ์ บุตรชาย ได้เดินเข้ามาในบ้านและยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุเอง และได้หลบหนีไป โดยเหตุดังกล่าวเกิดจากการขัดแย้งในเรื่องมรดกที่ดิน จึงได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้แจ้งตำรวจ สภ.บางแม่นาง

Advertisement

สอบถามจากนางละเอียด ทราบว่า สาเหตุเกิดจากข้อพิพาทเรื่องที่ดิน มีการต่อสู้ในชั้นศาลมานานกว่า 10 ปี สุดท้ายศาลตัดสินให้ฝ่ายนายพายัพ ชนะคดี ทางนายพิศิษฐ์ต้องออกจากบ้าน ทำให้เกิดความเครียด เช้าวันนี้มีปากเสียงกันก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะชักอาวุธปืนยิงใส่ไปหลายนัด หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ

นางละเอียดกล่าวว่า ได้ยินเสียงปืนรัวเลยดังปัง ทีแรกนึกว่าเป็นเสียงลูกระเบิด จากนั้นนายพิสิษฐ์ก็วิ่งเข้าบ้านแล้วเดินวนอยู่แถวนี้ ตนเลยบอกว่าเดี๋ยวให้มอบตัวไม่ต้องหนีไปไหน ขณะที่นายพิศิษฐ์ได้กล่าวว่า เดี๋ยวขอทำใจนิดหนึ่งเดี๋ยวมา ปัญหาที่ยิงกันเสียชีวิตก็เกี่ยวกับที่ดิน ที่มีปัญหาทะเลาะกันมานานแล้วกับฝ่ายผู้เสียชีวิต จนมีความขึ้นศาลกันมาแล้ว โดยผู้ก่อเหตุเขาบอกว่าเขาอยู่มานานแล้วตั้งแต่เกิด แต่อีกฝ่ายจะไล่ไม่ให้อยู่ หลังจากที่ศาลตัดสินให้นายพิสิษฐ์แพ้คดี เขาจะขอแลกที่ก็ไม่ยอมให้ นายพิสิทธิ์จึงพูดว่าถ้าเขาอยู่ไม่ได้มันก็อยู่ไม่ได้

Advertisement

ต่อมาเวลา 11.40 น.วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ กลั่นเพ็ชร์ ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และนายพนม พึ่งสุขแดง กำนันตำบลบ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้พานายพิสิษฐ์ เอี่ยมผ่อง อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุยิงอาเสียชีวิต 2 ศพเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางแม่นาง โดยนายพิสิษฐ์รับสารภาพว่า ก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง เนื่องจากเขามาด่าตนเมื่อเช้าเรื่องที่ดินที่ตนเองอาศัยอยู่ เขามาไล่ตนให้ออกจากที่ของเขา ซึ่งเป็นอาเป็นน้องของพ่อตน เรื่องนี้ก็มีการเจรจากันมาตลอด คุยกันเขาก็ไม่ยอม ให้ผู้ใหญ่หลายคนเข้าไปคุยเขาก็ไม่ยอม เขาขอ 1 ล้านบาท ตนจะเอาที่ดินที่ญาติพี่น้องรวมมาให้ตนอีกแปลงไปแลกที่ที่ตนปลูกบ้านอยู่ เขาก็ไม่ยอม ส่วนปืนที่มีอยู่ในบ้านยิงไปกี่นัดตนจำไม่ได้

“ตนขอโทษในสิ่งที่ตนทำไป สาเหตุที่ทำไปมีหลายอย่าง ส่วนหนึ่งเขามาด่าทอตนที่บ้าน ด่าแบบรุนแรงด่าถึงบุพการี และด่าไล่ตนให้ออกจากที่ดินให้ออกจากบ้าน ซึ่งตนรู้อยู่แล้วเพราะศาลตัดสินให้แพ้คดีก็จะต้องย้ายออก แต่ตนใจจริงไม่อยากย้ายออก เพราะเป็นบ้านพ่อบ้านแม่ แต่ศาลตัดสินตนก็ยอมรับแล้วตนก็จะขอแลกที่กับเขาด้วย ตนก็ไม่อยากทำเพราะญาติพี่น้องกันทั้งนั้น เขาก็มาไล่มาด่าตนหลายรอบ” นายพิสิษฐ์กล่าว

นายสมศักดิ์กล่าวว่า บ้านตนอยู่ใกล้เคียงกับบ้านที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียง แต่ไม่ทราบว่าเสียงอะไร เพราะช่วงนี้ทำนากันก็จะมีการไล่นก จากนั้นนายพิสิษฐ์ได้โทรศัพท์มาหาตน ตนเดินไปที่บ้านแต่เขาไม่อยู่แล้วจึงสอบถามแม่ของนายพิสิษฐ์ แต่คุยโทรศัพท์กันอยู่ตนเลยถามว่าอยู่ที่ไหน เขาบอกขับรถมอเตอร์ไซค์หนีไปขอทำใจ และขอให้ตนช่วยพาไปมอบตัว ตนจึงโทรสอบถามกำนันเขาก็มาส่ง ตนจึงขับรถออกไปก็ไม่ทราบใครมาส่งเห็นเขายืนรออยู่ที่ริมถนนแล้วแถวย่านไทรน้อย ส่วนสาเหตุคือผู้ก่อเหตุเขาไม่มีที่อยู่ เรื่องนี้ 2 คนที่ตายก็เป็นอาของเขา มีเรื่องฟ้องร้องกันจนคดีถึงที่สุดนายพิสิษฐ์ เขาก็แพ้ฝ่ายคดี ผู้เสียชีวิตเขาก็เลยไล่ที่ต้องรื้อบ้านออกจากที่ดินของผู้เสียชีวิต โดยไม่มีค่ารื้อถอนตามที่ศาลพิพากษา ฝ่ายนายพิสิทธิ์เขาก็ยอมโดยเอาที่ด้านในซึ่งเป็นที่ดินไม่มีทางเข้า แต่ที่ดินมากกว่ามายอมแลกกับที่บ้านที่เขาปลูกอยู่ ไกล่เกลี่ยอย่างไรก็ไม่ยอม เขาก็ทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุก็อาจจะเกิดความโมโห เพราะทะเลาะกันบ่อยกับพี่น้องคู่นี้ที่เขาอยู่กันสองคน ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่บ้านหลังใหญ่ พ่อเขาเป็นพี่ชายของสองคนนี้ ผู้ก่อเหตุเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่เขาพูดว่าขอให้มีที่อยู่เท่านั้นเอง มีการพูดคุยประนีประนอมกันหลายรอบ แต่สองพี่น้องก็ยืนกรานไม่ยอม จะเอาที่ตรงนี้ ตรงบ้านของผู้ที่ก่อเหตุสร้างอยู่ เดิมก็เป็นที่ของปู่ของผู้ก่อเหตุ แต่ปู่เขายกให้ลูกคนที่ตายหมดเลย

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ 1 กล่าวว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตก็เป็นญาติพี่น้องกันสาเหตุเกิดจากเรื่องมรดก โดยผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ในที่ของผู้ตาย มีการฟ้องขับไล่กันเรียบร้อย แต่ผู้ต้องหาก็ตกลงกันไม่ได้ มีการฟ้องร้องต่อศาลจนคดีสิ้นสุด โดยทางฝ่ายปกครองผู้ใหญ่บ้านก็พยายามไกล่เกลี่ยมาตลอด แต่ก็มีการทะเลาะกันมาต่อเนื่อง

พล.ต.ท.จิรสันต์กล่าวว่า โดยตำรวจก็ลงไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ ที่ก่อเหตุในวันนี้อาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบจากเหตุที่ทะเลาะกันมานาน ส่วนอาวุธปืนเป็นของบิดาของผู้ต้องหา เป็นอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ต้องหาได้นำมาก่อเหตุในวันนี้ก็จะทำเรื่องไปที่ฝ่ายปกครองให้เพิกถอนทะเบียน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา เจตนาฆ่าผู้อื่นและ พ.ร.บ.อาวุธปืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image