วันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายสมพร ยะโสธร รองนายกเทศมนตรี รักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่สำนักปศุสัตว์จังหวัดจับสุนัขจรจัดจำนวน 68 ตัว เพื่อนำไปกักไว้ที่วัดธรรมิการรม คณะใน ริมถนนสวนสน-อ่าวน้อย เพื่อรองรับมาตรการความปลอดภัย ระหว่างการจัดกิจกรรมการแข่งขันเมืองสามอ่าวมาราธอน 2017 ในเขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้มีความขัดแย้งระหว่างแกนนำกลุ่มจิตอาสาผู้รักสุนัขในพื้นที่เรียกร้องให้นำสุนัขกลับไปปล่อยในจุดเดิม โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของสุนัข ขณะเดียวกันมีกลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเหตุรำคาญจากสุนัขจรจัด เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐจัดสถานที่ดูแลให้เป็นระเบียบเรียบร้อยตามอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับศูนย์รักษ์สุนัขหัวหินนั้น
นายสมพรกล่าวว่า จากการหารือกับนายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาว ทราบว่าขณะนี้มีการทำหมันสุนัขทั้งหมด จากนั้นมีการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของต้องการนำสุนัขจรจัดไปเลี้ยงให้ไปแจ้งชื่อขึ้นทะเบียนกับเทศบาล โดยกำหนดให้นำสุนัขจรจัดไปเลี้ยงภายในเคหสถานเท่านั้น แต่จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดเดินทางมาขึ้นทะเบียนเพื่อนำสุนัขไปเลี้ยงแม้แต่รายเดียว ขณะที่สุนัขจรจัดที่ถูกนำมาคุมขังจำนวนมากถูกปล่อยออกจากกรงเหลือเพียง 3 ตัว ซึ่งอาจจะไปก่อเหตุรำคาญในที่สาธารณะ ขณะที่ระยะยาวเทศบาลมีแผนจะนำสุนัขจรจัดส่งไปเลี้ยงที่ จ.สระแก้ว
ด้านนายสัตวแพทย์สาโรช จันทร์ลาด กล่าวว่า สุนัขถูกควบคุมไว้มีกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแล นำออกไปจากพื้นที่กักขัง ซึ่งตามกฎหมายเจ้าหน้าที่สามารถนำสุนัขจรจัดมาขังได้เพียง 5 วันเท่านั้นตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และได้ครบกำหนดแล้ว แต่ปศุสัตว์ยังไม่มีสถานที่กักขังหรือศูนย์พักพิงของทางราชการ ซึ่งจะต้องมีหลายหน่วยงานร่วมกันหาข้อสรุปร่วมกันเพื่อไม่ให้มีความขัดแย้ง ส่วนการลงทะเบียนอาจมีปัญหาจากระยะเวลากระชั้นชิด เนื่องจากจะต้องมีการเตรียมแบบฟอร์มไว้ล่วงหน้า ยอมรับว่าสุนัขจรจัดจะต้องมีการะดมความเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเพื่อหาข้อยุติ