วันที่ 9 มีนาคม 2560 นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เผยกรณีกรมการขนส่งทางบก มอบนโยบายเข้มงวดกวดขันรถอูเบอร์ หรือรถยนต์ส่วนบุคคลรับจ้าง ซึ่งเข้าข่ายผิดกฏหมายใช้รถผิดประเภท เพื่อป้องกันอาชญากรรม และมิจฉาชีพแอบแฝง เป็นมาตรการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ว่า ขนส่งร่วมกับตำรวจ ทหาร ปกครอง กว่า20 คน ตั้งด่านตรวจรถสาธารณะรับจ้างทุกประเภท บริเวณทางออกท่าอากาศยานเชียงใหม่ ใกล้สะพานทางข้ามหน้าศูนย์การค้าเชียงใหม่เซ็นทรัล แอร์พอร์ท พลาซ่า ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมรถอูเบอร์ ที่รับส่งผู้โดยสารภายในสนามบินได้ 1 คัน ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (ตำรวจภาค 5) ที่ทำงานนอกเวลา จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท พร้อมทำบันทึกประวัติ เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ หากทำผิดซ้ำซาก อาจถูกยึด และไม่ต่อใบอนุญาตขับรถตามกฏหมาย
นอกจากนี้ ยังพบรถสาธารณะรับจ้าง กระทำผิด 3-4 ราย อาทิ จับกุมรถสามล้อเครื่อง หรือตุ๊กตุ๊ก ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา มาให้บริการที่สนามบิน ซึ่งเป็นรถต่างจังหวัด ที่ไม่สามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารข้ามเขตได้ รถรับจ้างที่ขาดต่อภาษีและบางราย มีใช้บริการร้องเรียนค่าโดยสารแพง ซึ่งดำเนินการเปรียบเทียบปรับเช่นเดียวกัน ทั้งนี้จะเข้มงวดกวดขัน ตั้งด่าน และตรวจตราในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นระยะ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม จนกว่ามีการเปลี่ยนแแปลงนโยบายดังกล่าว
นายบุญทา ชัยเลิศ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวว่า เห็นด้วยกับกรมการขนส่งทางบก ที่มีนโยบายจัดระเบียบรถอูเบอร์ เพื่อป้องกันอาชญากรรม และมิจฉาชีพแอบแฝง เนื่องจากผิดกฏหมาย และไม่ได้ทำทะเบียนประวัติพร้อมสนับสนุนแก้กฏหมาย เพื่อนำรถดังกล่าวเข้าสู่ระบบรถรับจ้างสาธารณะที่ถูกกฏหมาย เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยว เป็นทางเลือกผู้ใช้บริการ ถือเป็นการพัฒนาขนส่งมวลชนทางหนึ่ง เนืองจากได้รับร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว และผู้ใช้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ สนามบินเชียงใหม่หลายราย ว่า รถแท็กซี่ที่ให้บริการผู้โดยสารที่มาถึงสนามบินเที่ยวสุดท้าย ส่วนใหญ่คิดราคา 500 บาท/เที่ยว ไม่ได้คิดตามมิเตอร์ ทำให้ผู้ใช้บริการไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ผู้ประกอบการรถรับจ้างท้องถิ่น ควรพัฒนาระบบบริการ เข้าถึงผู้ใช้บริการ มีมารยาท ค่าโดยสารที่เป็นธรรม พร้อมมีระบบความปลอดภัยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นผู้ใช้บริการ ถ้าไม่พัฒนาผู้ใช้บริการลดลง เนื่องจากมีการแข่งขัน ผู้ใช้บริการมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รถรับจ้างท้องถิ่น โดยเฉพาะสี่ล้อแดง ถือเป็นเอกลักษณ์ที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มากว่า 50 ปี ควรพัฒนาบริการ เพื่อเข้าสู่สากล ส่วนผู้เรียกร้องให้เลิกใช้บริการรถสี่ล้อแดง ผ่านโซเซียลมีเดีย ควรให้ความเป็นธรรม และอย่าเปรียบเทียบบริการเหมือนต่างประเทศ เพราะไม่มีเอกลักษณ์ท้องถิ่น ที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ถือเป็นจุดขายท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง” นายบุญทา กล่าว
นายบุญทากล่าวอีกว่า นอกจากปัญหารถรับจ้างสาธารณะแล้ว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร้องเรียนว่ามีการตั้งด่านตรวจเจ้าหน้าที่ บางรายมีใบขับขี่สากล แต่ถูกเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ ครั่งละ 400 บาท บางรายเจอหลายด่าน ถูกปรับหลายครั้ง ข้อหาไม่มีใบขับขี่ เนื่องจากสื่อสารไม่เข้าใจกัน อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ และเมืองท่องเที่ยว ดังนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
