วันที่ 9 มีนาคม 2560 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายสมหวัง พ่วงบางโพธิ์ รอง ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานการประชุมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองนาตาล บ.หนองตะไก้ ต.หนองไผ่ อ.เมือง หลังจากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ต.หนองไผ่ ขอให้ทบทวนเพราะเกรงจะกระทบสิ่งแวดล้อม และการใช้น้ำของชุมชนโดยรอบ ซึ่งมี มทบ.24 , ทรัพยากรน้ำภาค 3 อุดรธานี , ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.อุดรธานี , อุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ,สภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี , อ.เมืองอุดรธานี , ทต.หนองไผ่ และกำนันผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ,5 ,6 ,7 ,12 ต.หนองไผ่
ตัวแทน สนง.ทรัพยากรน้ำภาค 3 ชี้แจงว่า หนองนาตาลเป็นแหล่งน้ำสาธารณะพื้นที่ 760 ไร่ มีสภาพตื้นเขินเก็บน้ำได้น้อยไม่เพียงพอต่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตร 18 มีนาคม 2559 นายกรัฐมนตรี มาตรวจเยี่ยม จ.อุดรธานี ได้สนับสนุนงบประมาณ ตามคำขอของ กรอ.เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และภาคอุตสาหกรรมในอนาคต วงเงิน 42 ล้านบาท ขุดลอกให้มีขนาดกว้างเฉลี่ย 550 ม. ยาว 1,409 ม. ลึก 3 ม. พื้นที่ปรับปรุง 484 ไร่ ได้ความจุ 1.5 ล้าน ลบ.ม. ก่อสร้างคันดินบดอัดแน่น 1.3 กม. อาคารทางเข้าน้ำ คสล. 6 จุด และบันไดลงสระ 4 จุด คาดว่าจะได้ผู้รับเหมาวันที่ 20 มีนาคมนี้ เมื่อสร้างเสร็จจะโอนให้ ทต.หนองไผ่ เป็นผู้ดูแล
ด้านนางยุพาพร รักษาภักดี ผญบ.ม.4 ต.หนองไผ่ กล่าวว่า หนองนาตาลเป็นแหล่งน้ำดิบ ใช้ในการผลิตน้ำประปา และเกษตรกรรมของชาวบ้าน ที่ผ่านมาก็มีปัญหาน้ำไม่เพียงพอ ชาวบ้านจึงมีความกังวล โดยมีความเห็นไปหลายครั้ง ว่าไม่เห็นด้วยจะนำน้ำในหนองนาตาล ไปใช้ร่วมกับภาคอุตสาหกรรม เกรงจะเกิดการแย่งชิงน้ำในอนาคต อยากให้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดโครงการ และให้มีกระบวนการมีส่วนร่วม รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ จะต้องเป็นการขุดลอกเพื่อให้เกษตรกรรม และชาวบ้านได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นการจัดหาแหล่งน้ำที่อุตสาหกรรม
ขณะที่ตัวแทนสภาอุตสาหกรรม จ.อุดรธานี ชี้แจงว่า ได้รับแจ้งจาก บ.เอเชีย แปซิกฟิก โปรแตส คอรเปอร์เรชั่น จก. เจ้าของโครงการเหมืองแร่โพแทชอุดรเหนือ และ บ.เมืองอุตสาหกรรมอุดรธานี จก. เจ้าของโครงการนิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี ว่าในแผนพัฒนาโครงการทั้งสองแห่ง ไม่ได้ใช้น้ำจากหนองนาตาล แต่ใช้น้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค และแหล่งน้ำอื่นในพื้นที่โครงการตนเอง
นายสมหวัง กล่าวว่า การเสนอของบประมาณไม่ได้ระบุเพื่อการอุตสาหกรรม ชัดเจนว่าเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้แก่เกษตรกร ในอนาคตหากโครงการแล้วเสร็จ ก็เป็นการดูแลจัดสรรโดยเทศบาล เป็นโอกาสที่ดีว่าในพื้นที่มีโครงการเช่นนี้ จะเป็นการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อพี่น้องประชาชนโดยตรง ในเมื่อทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันแล้วก็ผลักดันให้สำเร็จลุล่วงต่อไป ให้ทางทรัพยากรน้ำภาค 3 ติดป้ายชี้แจ้งโครงการโดยละเอียด จัดส่งข้อมูลบันทึกการประชุมในวันนี้ ให้ทางผู้นำชุมชนไปประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าใจ
