สายเน็ตเกี่ยวคอเจ็บ! ตกลงค่าเสียหายยังไม่ลงตัว เตือนไม่อยากให้เกิดกับใครอีก

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ต.อ.กันตพัฒน์ เนติพิชยาพงศ์ ผู้กำกับการ สภ.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เปิดเผยว่า จากอุบัติเหตุที่มีสาวประเภทสอง อายุ 17 ปี ชาว ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วประสบอุบัติเหตุสายสัญญานอินเตอร์เน็ตที่ห้อยด้านบนถนนสายเกาะคา – นาแก้ว เขตบ้านสองแควเหนือ ต.นาแก้ว อ.เกาะคา ร่วงตกลงมา และเกี่ยวเข้าที่คอจนทำให้ได้รับบาดเจ็บที่คอจากสายสัญญานที่มีความแข็งบาดเข้าที่คอจนเป็นแผลลึก ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้มีการโพสต์ถามหาความรับผิดชอบต่อเจ้าของสายสัญญานดังกล่าว ที่มีการติดตั้งไม่ดีจนทำให้ร่วงลงมา และเป็นข่าวโด่งดังออกไป

ในเรื่องนี้ ทาง สภ.เกาะคา ได้ประสานให้ผู้ได้รับบาดเจ็บ มาพบกับตัวแทนเจ้าของสายสัญญานดังกล่าวแล้ววันนี้ ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการอินเตอร์เน็ตยี่ห้อหนึ่ง เพื่อพูดคุยตกลงกันในเรื่องช่วยเหลือค่าเสียหาย และค่าเยียวยา โดยเบื้องต้นขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากทางผู้แทนเจ้าของสายสัญญานบริษัทดังกล่าวจะรับเรื่องไปรายงานให้ทางผู้บริหารบริษัทพิจารณาช่วยเหลือ ซึ่งทางผู้บาดเจ็บได้เรียกร้องค่ารักษาพยาบาลทั้งของตนเอง และผู้ที่ซ้อนท้ายที่บาดเจ็บเช่นกัน รวมกว่า 1,000 บาท รวมถึงค่าซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ ยังมีการเรียกค่าทำขวัญเป็นเงินถึง 300,000 บาท ต่อการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ดังนั้น การพูดคุยตกลงกันในวันนี้ จึงยังไม่ได้ข้อสรุป

ผู้กำกับการ สภ.เกาะคา ยังกล่าวอีกว่า กรณีที่มีการวิจารณ์พาดพิงถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะคา ว่า ไม่รับแจ้งความ ในเรื่องนี้ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งทาง สภ.เกาะคา มีการรับแจ้งความในคืนของวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 10 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา และในเวลาเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของ สภ.เกาะคา ก็เดินทางไปตรวจสอบการเกิดอุบัติเหตุด้วย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคดีขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดกับเจ้าของสายสัญญาณ ซึ่งได้ขอผลตรวจทางแพทย์ ที่จะแจงการชันสูตรบาดแผลว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจึงจะมีการแจ้งข้อหาทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับผลการวินิจฉัยตรวจบาดแผลของแพทย์โรงพยาบาลเกาะคา

ด้าน นายวราวุฒิ อินต๊ะจักร หรือน้องเอสโซ่ อายุ 17 ปี ชาว ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง บอกว่า การที่มีการติดตั้งสายสัญญานอินเทอร์เน็ตดังกล่าวในลักษณะที่ไม่ดี และทำให้เป็นอันตรายต่อผู้อื่นในเรื่องนี้สำคัญมาก ซึ่งโชคดีที่ตนเองขับรถไม่เร็ว จึงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากเกิดโชคร้ายอาจจะถึงขั้นคอขาดเลยทีเดียว จึงได้เรียกร้องค่าทำขวัญ เพื่อให้ทางเจ้าของสายสัญญาณได้รับผิดชอบต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความตระหนักในเรื่องนี้ และไม่ให้เกิดเหตุร้ายกับใครอีก ส่วนการที่ญาติโพสต์ภาพ และข้อความออกไปนั้น เนื่องจากที่ผ่านมา ทางญาติมองว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และจะไม่มีใครออกมารับผิดชอบ โดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ที่จะนิ่งเฉยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงมีการโพสต์ข้อความช่วยเหลืออกไปทางโซเชียลมีเดีย ทำให้มีผู้สนใจแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขว้าง จนได้รับการประสานติดต่อให้เข้าไปพูดคุยกันกับทางเจ้าของสายสัญญานอินเทอร์เน็ตดังกล่าว

Advertisement

201703151653252-20110510201751

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image