วันที่ 23 มีนาคม 2560 นายบำรุง เจริญพจน์ รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมด้วยนายธนาคม วิมลวัตรเวที ประธานสภาเทศบาลฯ ได้เดินทางมาตรวจสอบโบราณวัตถุ ซึ่งเก็บไว้ภายในพระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ภายหลังจากที่ทางวัดได้ทำการบุรณะฐานพระประธานเก่าแก่ อายุกว่า 360 ปี ก็ได้พบกับโบราณวัตถุที่เป็นพระพุทธรูปปางต่างๆ อยู่ใต้ฐานพระประธานเป็นจำนวนมาก จึงได้นำพระพุทธรูปบางส่วน จำนวนกว่า 100 ชิ้นออกมาวางไว้บนโต๊ะด้านหน้าพระประธาน เพื่อให้กรมศิลปากร และนักโบราณคดีได้เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
จากการสอบถามพระปลัดเอกรินทร์ ธัมมะรังสี เจ้าคณะ 6 วัดพระนารายณ์มหาราช ผู้ดูแลพระวิหารหลวง ได้รับการเปิดเผยว่า สำหรับพระพุทธรูปโบราณที่ค้นพบเหล่านี้ คาดว่าจะถูกบรรจุไว้เมื่อครั้งสร้าง “หลวงพ่อใหญ่” พระประธานในพระวิหารหลวง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2199 ปัจจุบันมีอายุถึง 361 ปีแล้ว โดยมีสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นผู้สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองโคราช โดยหลวงพ่อใหญ่องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 เมตร สูง 6 เมตร ตั้งอยู่บนฐานอิฐแดงสูงประมาณ 3 เมตร ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหารหลวงแห่งแรกของเมืองโคราช
“ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการบูรณะพระวิหารหลวงมาหลายครั้ง แต่ในส่วนของฐานหลวงพ่อใหญ่ บูรณะครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2500 หรือเมื่อ 60 ปีมาแล้ว ทำให้อิฐใต้ฐานเริ่มมีรอยแตกร้าวและเสื่อมสภาพตามกาลเวลา หากทิ้งไว้อาจจะเกิดฐานทรุดมาได้ ดังนั้นเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร จึงได้เริ่มทำการบูรณะวิหารหลวงและฐานพระประธาน โดยทำการลงรักปิดทององค์หลวงพ่อใหญ่ใหม่ทั้งองค์” พระปลัดเอกรินทร์กล่าวและว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ช่างได้ทำการรื้อเอาก้อนอิฐใต้ฐานออก เพื่อเทปูนทำฐานเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น แต่เมื่อรื้ออิฐใต้ฐานด้านหน้าพระประธาน ก็พบว่ามีพระพุทธรูปโบราณ วางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีเป็นพันองค์ บางองค์ก็อยู่ในสภาพสมบูรณ์ บางองค์ก็แตกหักเป็นชิ้นๆ จึงได้นำออกมาบางส่วนประมาณ 100 ชิ้น เพื่อให้นักโบราณคดีทำการศึกษาค้นคว้า ส่วนที่เหลืออีกจำนวนมาก ก็ได้ทำการซีนปูนปาสเตอร์แล้วเทปูนทับไว้ใต้ฐานเหมือนเดิม เพราะถ้ารื้อออกมาทั้งหมดจะทำให้พระประธานทรุดลงมาได้
ด้านนายธนาคม กล่าวว่า สำหรับพระพุทธรูปโบราณที่ขุดค้นพบเหล่านี้ ทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ประสานไปที่ช่างสิบหมู่ สำนักศิลปากรที่ 12 จ.นครราชสีมา ให้มาเก็บรายละเอียดไปตรวจสอบแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่ามีทั้งพระพุทธรูปในยุคทวารวดี ยุคอยุธยาตอนต้นถึงตอนปลาย และยุคขอมโบราณ ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชน พ่อค้า คหบดี ได้นำมาร่วมบรรจุไว้ใต้ฐานพระประธาน สมัยเมื่อครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 361 ปีมาแล้ว โดยส่วนที่นำออกมานี้ ก็จะหารือกับทางวัดว่าจะทำเป็นพิพิธภัณฑ์ไว้ภายในวัด สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชม เพื่อเล่าเรื่องราวความเป็นมาของวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหารแห่งนี้ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันต่อไป
