ผู้ตรวจการฯลงพื้นที่ตามการแก้ขยะตกค้าง 2.5 แสนตันในสมุย ชี้ย้ายทิ้งนอกเกาะดีที่สุด

วันที่ 24 มีนาคม 2560 ภายในโรงกำจัดขยะ เทศบาลนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหาขยะตกค้างกว่า 2.5แสนตัน ที่เกิดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมรอบโรงกำจัดขยะต่อชุมชนมายาวนาน จนทำให้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
จากการลงพื้นที่พบว่า โรงกำจัดขยะเทศบาลนครเกาะสมุยที่รับผิดชอบดูแลไม่สามารถเดินเครื่องเผาขยะมากว่า 8 ปีแล้ว และเครื่องคัดแยกขยะที่มีอยู่ก็ชำรุดเสียหายจนใช้การไม่ได้ ขณะเดียวกันปริมาณขยะจากชุมชนเข้ามาวันละ 150-200 ตันต่อวัน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีฝังกลบแทน จนเกิดปัญหาขยะในพื้นที่เกาะสมุยตกข้างสะสมกว่า 2.5แสนตัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารเทศบาลนครเกาะสมุยได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาขยะที่ตกค้าง ด้วยการเสนอแผนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแผนที่ชุมชนเห็นชอบคือให้เอกชนขนย้ายขยะออกนอกเกาะสมุยขนส่งทางเรือแล้วนำไปกำจัดยังแผ่นดินใหญ่
201703231609361-20060530143915
นายรักษเกชา ได้กล่าวหลังจากลงพื้นที่ดูปัญหาขยะว่า การแก้ปัญหาด้วยการขนขยะไปทิ้งยังพื้นที่ภายนอกจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ทางเทศบาลนครเกาะสมุยจึงได้เขียนรายละเอียดของโครงการกำจัดขยะ หรือ ทีโออาร์ ขึ้นมาโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการกำจัดขยะเก่าที่ตกข้างที่มีการคลุมพลาสติกไว้กว่าสองแสนตัน ส่วนขยะใหม่ที่เข้ามาในแต่ละวัน วันละ 150-200 ตัน ต้องใช้วิธีฝังกลบและได้เขียนรายละเอียดในการกำจัดในทีโออาร์ไว้แล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับรัฐบาลได้มีงบกลุ่มพัฒนาจังหวัดจำนวน 5,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในกลุ่ม 5 จังหวัดภาคใต้ซึ่งรวมถึงจังหวัดสุราษร์ธานีด้วย ซึ่งเทศบาลนครเกาะสมุยได้ทำเรื่องนี้เข้าไป และได้ผลสรุปว่าทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้การสนับสนุนงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาทในการกำจัดขยะทั้งเก่าและขยะใหม่ ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนเทศบาลนครเกาะสมุยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการขนย้ายเท่านั้น
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image