หนุ่มนักบิน (ครูฝึกบิน) ชาวแอฟริกาใต้ วัย 36 ปี บินข้ามทวีปมาหาลูกชายเมืองไทยหลังทราบข่าวภรรยาไทยหนีออกจากบ้าน ที่กรุงเทพฯ ขณะทิ้งลูกชายวัย 6 ขวบไว้กับแม่ยาย ต้องหอบลูกชายตระเวนตามหาถึงบ้านเกิดถิ่นอีสาน ไม่พบโร่เข้าแจ้งความวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย และสื่อไทยช่วยประกาศตามหาเพื่อให้เมียกลับมาอยู่กับครอบครัว
เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 28 มีนาคม นายดารอน เบียดคาร์ อายุ 36 ปี ทำงานครูฝึกนักบิน ชาวประเทศแอฟริกาใต้ อุ้มบุตรชายวัย 6 ขวบ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.มานิต ทองคำ รอง.สว. (สอบสวน) สภ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ตำตรวจไทย ช่วยประกาศและติดตามภรรยาคนไทยที่ตนมีลูกอยู่ด้วยกัน ชื่อนางนิตยา เบียดคาร์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137 หมู่ 7 ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ได้หนีออกจากบ้านแม่ยายที่ กทม. มาได้ประมาณ 1 ปีแล้ว โดยไม่กลับมาบ้านดูแลลูกชาย ขณะที่ทราบข่าวมาว่าภรรยานั้นอาจจะกลับไปบ้านที่ จ.ขอนแก่น หรือไม่ก็ จ.สระบุรี แต่ไม่พบ จึงมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่เพื่อประกาศและติดตามหาภรรยาให้ด้วย
นายดารอน เบียดคาร์ เปิดเผยว่า ตนเองอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ มีอาชีพเป็นนักบิน และครูฝึกสอนนักบินที่บ้านตน ต่อมาตนเองพร้อมเพื่อนๆ ได้บินมาเที่ยวเมืองไทย หลังจากนั้นได้มารู้จักนางนิตยา ผ่านเพื่อนๆ ตนที่แนะนำให้รู้จัก จนกระทั่งเกิดความรักและคบหากัน ต่อมาจึงได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับนางนิตยา และอยู่กินกันได้ประมาณ 8 ปี จนกระทั่งภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ ตนเองก็ได้พาภรรยาบินกลับไปเที่ยวบ้านที่ประเทศแอฟริกาใต้ จนคลอดลูกชายออกมาและได้เลี้ยงดูอยู่ระยะหนึ่งจนลูกชายโต จากนั้นนางนิตยาบอกว่าคิดถึงบ้าน อยากกลับบ้านที่เมืองไทย ตนเองก็ได้พาบินกลับมาเที่ยวบ้านที่เมืองไทย และซื้อบ้านไว้ให้ที่ กทม. ให้ภรรยาอยู่กับแม่ยาย
นายดารอนเผยต่ออีกว่า ในระหว่างที่กลับมาอยู่กรุงเทพฯนั้น ตนเองก็ยังได้บินไปกลับประเทศตนเพื่อทำงาน ล่าสุดตนทราบข่าวจากทางบ้านที่เมืองไทยว่าภรรยาได้หนีออกจากบ้านไปร่วม 1 ปี จึงได้บินกลับมาเมืองไทย ปรากฏว่าไม่พบภรรยาอยู่ที่บ้านในกรุงเทพฯ พบเพียงแม่ยายและลูกชาย
จากนั้นตนจึงได้นำลูกชายตระเวนไปตามที่บ้านเกิดภรรยาที่ จ.ขอนแก่น คาดว่า น่าจะหนีมาอยู่บ้านเกิดแต่เมื่อมาถึงที่บ้านก็ไม่พบ กระทั่งมีเพื่อนบ้านบอกว่าภรรยาน่าจะไปอยู่ที่บ้านเพื่อนใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตนจึงเดินทางมา ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี แต่ว่าตนเองไม่รู้จักพื้นที่และที่อยู่ โดยตนเองพอจะพูดไทยได้บ้าง จึงได้ตัดสินใจหอบลูกชายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก เพื่อขอให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยประกาศและออกติดตามภรรยาของตนด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจึงรับเรื่องช่วยประกาศออกติดตามต่อไป
ขณะเดียวกัน นายดารอนยังทิ้งท้ายเปิดใจว่า ตนเองตั้งแต่มาอยู่ที่ประเทศไทย มีภรรยาคนไทยมีลูกด้วยกัน 1 คน ตัวเองรักประเทศไทยมากถึงแม้จะบินไปๆ มาๆ ก็ตาม และตอนนี้ตนมีปัญหาภรรยาหนีออกจากบ้านไป จึงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อไทย ช่วยติดตามภรรยาและประกาศหาภรรยาให้ด้วย เพราะว่าเป็นห่วงลูกอยากให้ครอบครัวมีความสุขเหมือนครอบครัวทั่วไป จึงขอวิงวอนถ้าภรรยาทราบข่าวขอให้ติดต่อกลับมาหาตนและลูกด้วยหรือถ้ามีปัญหาขอให้มาพูดคุยกัน
