เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดมหาสารคาม ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม นางสาวปาลิตา ศรีแสง หรือหญิง อายุ 20 ปี ชาวมหาสารคาม เข้ายื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อนายเชวงศักดิ์ พลลาภ ประธานสภาทนายความจังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอความช่วยเหลือจัดหาทนายฟ้องร้องดำเนินคดีกับคู่กรณี ที่ล่อลวงตนเองว่าจะพาไปสมัครงานที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนพาพวกมารุมตบตีโดยไม่ทราบสาเหตุ ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย และเลือดคั่งในสมอง ปวดหัวตลอดเวลา ขณะที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ ที่ สภ.หนองแสง ให้ดำเนินคดี แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าให้จบๆ กันไป จึงได้มาร้องเรียนต่อสภาทนายความจังหวัดมหาสารคามให้ช่วยเหลือ
นางสาวปาลิตากล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ตนและคู่กรณีคือ นางสาวสุวดี สามา อายุ 21 ปี ซึ่งเคยรู้จักกันมาก่อนประมาณ 1 ปี เนื่องจากขายสินค้าออนไลน์ร่วมกัน และมีที่พักอาศัยในหมู่บ้านใกล้ๆ กัน ที่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ล่อลวงตนเองโดยบอกว่าจะพาไปสมัครงานที่จังหวัดอุดรธานี เป็นพนักงานงานร้านหมูกระทะ โดยตนได้หลงเชื่อเพราะต้องการทำงานหารายได้มาดูแลบิดา ที่เพิ่งผ่าตัดลำไส้ยังไม่สามารถทำงานได้
โดยตนได้นั่งรถตู้จากจังหวัดมหาสารคาม ไปที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อมาถึงที่หมาย นางสาวสุวดีได้พามาพักที่บ้านทับกุง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสุวดี จากนั้นบอกให้ตนรอ บอกว่าตอน 4 ทุ่ม จะมาไปสมัครงานร้านหมูกระทะ จนได้เวลา นางสาวสุวดี พร้อมเพื่อนผู้หญิง 1 คน และสาวประเภทสอง 2 คน รวม 4 คน อยู่ดีๆ ก็ได้ปรี่เข้ามาทำร้ายตบตีตนโดยไม่ทราบสาเหตุ พร้อมกับถ่ายคลิปวิดีโอแล้วนำไปโพสต์ประจานในเฟซบุ๊ก ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลถลอก ฟกช้ำตามร่างกาย และปวดหัวอย่างรุนแรง อีกทั้งโทรศัพท์มือถือจอแตกเสียหาย จากนั้นได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หนองแสง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งในคืนนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งมีน้ำใจ ให้ตนไปพักที่บ้านพักกับครอบครัว ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นพ่อแม่และญาติๆ จะเดินทางมารับตนกลับบ้านที่จังหวัดมหาสารคาม โดยตนและญาติๆ ประสงค์ที่จะแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย และดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแสง คนหนึ่งซึ่งไม่ทราบชื่อ แต่ตนเองจำหน้าได้ กลับบอกว่าหากรู้จักกับคู่กรณี ก็ให้เคลียร์ให้เรื่องจบๆ กันไป ส่วนโทรศัพท์ที่พังเสียหายก็ให้หาซื้อใหม่เอง
ต่อมาทราบว่า ทางผู้ก่อเหตุได้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ขณะตบตีตนเอง นำไปเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กของทั้ง 4 คน พร้อมกับข้อความเยาะเย้ย ประจานตนในทางเสื่อมเสีย และข่มขู่ว่าหากแจ้งความจะพากันมาทำร้ายตนถึงบ้านที่มหาสารคาม ซึ่งตนเกรงกลัว และเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้เดินทางมาร้องเรียนสภาทนายความจังหวัดมหาสารคามให้ช่วยเหลือ โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ จ.มหาสารคาม ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่โพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งก็คือ นางสาวสุวดี ที่ลงมือตบตีตนและเป็นบุคคลในภาพ ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนอาการบาดเจ็บของตนตอนนี้ บาดแผล และรอยฟกช้ำ มีอาการดีขึ้น ส่วนอาการเลือดคั่งในสมองนั้นแพทย์โรงพยาบาลบรบือ แจ้งว่าไม่อยู่ในระดับอันตราย แต่ยังคงปวดหัวอยู่ตลอดเวลา จึงอยากเรียกร้องให้ทางสภาทนายความ และสื่อมวลชนช่วยเหลือเพื่อนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายเชวงศักดิ์ พลลาภ ประธานสภาทนายความจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องราวร้องทุกข์เอาไว้แล้ว โดยทางสภาทนายความจะได้พูดคุยในรายละเอียด พร้อมหาทางช่วยเหลือ ซึ่งมีแนวทางอยู่ 3 แนวทาง คือ 1.เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่ที่มูลคดีเกิดขึ้นตาม ป.วิอาญา 2.เมื่อเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย เป็นผู้ถูกกระทำ สามารถฟ้องเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน 3.จัดหาทนายอาสามาให้กับผู้เสียหาย เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
