นักวิชาการแนะปฏิรูปโครงสร้าง อปท.ให้เสร็จก่อนจัดสอบบรรจุกว่าหมื่นอัตรา

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2560 นายวีระศักดิ์ เครือเทพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้องค์การปกครองท้องถิ่น (อปท.) เปิดเผยว่า หลังจาก ก.กลางมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การสอบแข่งขันบุคคลภายนอกเข้ารับราชการ พ.ศ.2560 ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 8/2560 โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) จัดสอบ 10 เขต เพื่อขึ้นบัญชีผู้สอบผ่านใช้บรรจุแต่งตั้งใน อบจ. อบต. และเทศบาล ตามเขตที่สอบ จำนวน 84 ตำแหน่ง 14,653 อัตรา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการสำรวจอัตราว่างเพิ่มเติมจาก อปท.ทั่วประเทศ คาดว่าจะมีผู้สมัครสอบกว่า 6 แสนคนจากทั่วประเทศนั้น การดำเนินการจัดสอบดังกล่าว ในอนาคตอาจจะมีปัญหาในเชิงโครงสร้าง จากการปฏิรูปท้องถิ่นหากมีการยุบ มีการควบรวมหรือมีการยกฐานะ อปท.ขนาดเล็ก

“ผู้มีอำนาจควรพิจาณาอย่างรอบด้าน ต้องประเมินผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นควรรออีกประมาณ 1 ปี เพื่อให้มีการปฏิรูปเชิงโครงสร้างให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นจึงดำเนินการสรรหาบุคลากรไปทำหน้าที่ในโครงสร้างใหม่ จะทำให้เกิดความเสียหายน้อยกว่าการเปิดสอบในช่วงนี้แล้วหาแนวทางแก้ปัญหาในภายหลัง เนื่องจากแนวทางในการปฏิรูป มีเหตุผลสำคัญต้องการปรับลดงบประมาณรายจ่ายด้านบุคลากรท้องถิ่นไม่ให้เกินสัดส่วนร้อยละ 40 ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้นการเปิดสอบเพื่อสรรหาบุคลากรเพิ่ม จึงน่าจะขัดแย้งกับแนวทางการปฏิรูปอย่างชัดเจน และการสอบบรรจุโดยหน่วยงานส่วนกลาง อาจจะตอบโจทย์เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตในการซื้อขายตำแหน่ง ดีกว่าปล่อยให้ท้องถิ่นจัดสอบเองเหมือนในอดีต แต่การช่วยเหลือเกื้อกูลในระบบอุปถัมภ์ จากการโยกย้ายแต่งตั้งเชื่อว่าแก้ไขได้ยาก ที่สำคัญการสอบรรจุครั้งนี้ทราบว่าได้เลื่อนจากกำหนดเดิมมานานหลายเดือนจากปัจจัยหลายด้าน” นายวีระศักดิ์กล่าว

ด้านนายสรณะ เทพเนาว์ นายกสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย อดีต สปช. ด้านการปกครองท้องถิ่น ในฐานะอนุกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป สปท. กล่าวว่า จากการจัดเวทีสัมมนาทางวิชาการของสมาคมพนักงานข้าราชการท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกรณีที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในฐานะเลขานุการ ก.กลาง เร่งรีบผิดปกติด้วยการเสนอให้มีการเปิดสอบบรรจุโดย กสถ. เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่า อปท.จำนวนมากมีคนล้นงาน และการเปิดสอบจะทำให้มีปัญหาในการเกลี่ยอัตรากำลังจากตำแหน่งที่มีความซ้ำซ้อนหลังการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง มีการตั้งเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ลดงบประมาณรายจ่ายด้านบุคลากร

ขณะที่ นายเชื้อ ฮั่นจินดา คณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) กล่าวว่า ก่อนจะมีมติให้  กสถ.จัดสอบได้สอบถามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยประธาน ก.กลาง ว่ารัฐบาลมีความประสงค์จะควบรวม ยกฐานะหรือยุบ อปท.ขนาดเล็กหรือไม่ หากยืนยันจะปฏิรูปท้องถิ่นตามแนวทางที่กำหนดไว้ก็ไม่ควรเปิดสอบ หรือควรเปิดสอบเฉพาะตำแหน่งที่ขาดแคลน เช่น เจ้าหน้าที่พัสดุ ช่างโยธาและบุคลากรทางการศึกษา แต่ไม่มีความชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าหากเปิดสอบโดยนำบุคลากรเข้าไปในระบบแล้ว ในอนาคตหากท้องถิ่นมีการปรับโครงสร้างใหม่ จะทำให้มีปัญหายุ่งยากพอสมควร สำหรับการประชุม กสถ.ในวันที่ 7 เมษายนนี้ หากนายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.อบต.กลาง อดีตประธาน กสถ. ประกาศจุดยืนไม่รับตำแหน่งประธาน ตนก็จะไม่รับหน้าที่ใน กสถ.เช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image