แนะ 5 เส้นทางเลี่ยงติดขัด จราจรสู่อีสานช่วงสงกรานต์

วันที่ 6 เมษายน 2560 พ.ต.อ.สันติ เหล่าประทาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลด้านการจราจรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งจะมีประชาชนชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางกลับภูมิลำเนา ผ่านถนนเส้นต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการจราจรติดขัด ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา จึงได้แนะนำเส้นทางเลี่ยงการจราจรติดขัด เพื่อให้ประชาชนเลือกเดินทางโดยสะดวกไว้ 5 เส้นทาง ประกอบไปด้วย

1. เส้นทางเลี่ยงที่ 1 เส้นทางสาย 21 ผ่าน จ.สระบุรี เข้า อ.ม่วงค่อม ออกไปยัง อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ระยะทาง 220 กิโลเมตร

2. เส้นทางเลี่ยงที่ 2 เส้นทางสาย 21 ผ่าน จ.สระบุรี  เข้า อ.ม่วงค่อม สาย2256 มุ่งหน้า อ.ท่าหลวง เข้า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา สาย 201 แล้วเข้าสู่ อ.หนองบัวโคก จ.ชัยภูมิ รวมระยะทาง 230 กิโลเมตร

3. เส้นทางเลี่ยงที่ 3 จาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ใช้เส้นทาง 1388 มุ่งหน้า เข้า อ.วังม่วง เส้น 2243 แล้วเข้า อ.ด่านขุนทด เส้น 2256  แล้วเข้า จ.ชัยภูมิ เส้น 201 ระยะทาง 188 กิโลเมตร

Advertisement

4. เส้นทางเลี่ยงที่ 4 อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้า อ.ด่านขุนทด เส้น 201 มุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอบ้านเหลื่อม เส้น 2384 ออกแยกโคกสี แล้วเข้า อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น เส้น 4029 แล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เส้น 2199 รวมระยะทาง 195 กิโลเมตรฃ

และ5. เส้นทางเลี่ยงที่ 5. อ.หนองแค จ.สระบุรี มุ่งหน้าเข้า อ.บ้านนา จ.นครนายก เส้น 33 แล้วมุ่งหน้าเข้า จ.นครนายก ผ่านมายัง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีบุรี แล้วเข้า จ.สระแก้ว แล้วมุ่งหน้ามายัง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เส้น348 แล้วเข้าสู่ อ.ปะคำ และ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  รวมระยะทาง 320 กิโลเมตร

พ.ต.อ.สันติ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ บางปะอินทร์ – นครราชสีมา ซึ่งหลายช่วงอยู่เลียบถนนมิตรภาพ อาจจะเป็นอุปสรรคทำให้พื้นผิวการจราจรแคบ โดยเฉพาะถนนมิตรภาพช่วงเชื่อมต่อระหว่าง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ที่มีการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ อยู่เกาะกลางถนน จึงทำให้พื้นผิวจราจรแคบ และมีรถติดขัดเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากเลี่ยงเส้นทางนี้ได้ก็ขอให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ขอให้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามที่สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586

Advertisement

“ส่วนมาตรการกฎหมายกับยานพาหนะนั้น ได้กำชับทั้ง 32 อำเภอ บังคับใช้กับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด เช่น ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกกันน๊อก เมาขณะขับขี่ โทรศัพท์ขณะขับขี่ เป็นต้น ส่วนกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการห้ามนั่งโดยสารในแค็ปและหลังรถกระบะนั้น ตำรวจภูธรนครราชสีมาจะตักเตือนและแนะนำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปฏิบัติตามกฏหมายก่อนจะบังคับใช้จริงในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์หรือจนกว่ารัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการนี้อย่างชัดเจนอีกครั้ง” รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครราชสีมา กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image