ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น. วันที่ 7 มีนาคม นายชลอ เกิดมากมี อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ 11 ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยชาวบ้านตำบลบ้านกรด ร้องเรียน พร้อมนำชี้ให้เห็นถึงสภาพถนนชลประทาน เส้นทางสายบ้านกรด-บ้านโพธิ์ ระยะทาง 20 กิโลเมตร เลียบทางรถไฟและคลองชลประทาน ซึ่งเดิมเป็นถนนลาดยางอย่างดี แต่ปัจจุบันมีสภาพชำรุดและทรุดตัวตลอดทั้งเส้นทาง บางแห่งพังทรุดเป็นเหว บางแห่งทรุดตัวเป็นหลุมใหญ่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 100 จุด
โดยชาวบ้านยืนยันว่าถนนเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่การเกษตร และใช้สัญจรของหมู่บ้านกลางทุ่ง อีกทั้งเป็นถนนสายหลักในการป้องกันน้ำท่วมของพื้นที่อำเภอบางปะอิน ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถนนพังทรุดแบบนี้ ต้องการให้หน่วยงานรัฐเข้ามาแก้ไขด่วนที่สุด
ขณะที่นายบุญส่ง ภาคาเดช รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรด เปิดเผยว่า ถนนแห่งนี้เริ่มพังมาได้ 2 ปีแล้ว และช่วงนี้เกิดภัยแล้ง น้ำในคลองทั้งสองฝั่งถนนได้แห้งไปหมดแล้ว ทำให้ถนนพังทรุดตัวเพิ่มขึ้นอีก จึงถือว่าภัยแล้งเป็นตัวกระตุ้นให้ถนนพังทรุดตัวเพิ่ม โดยเทศบาลเองไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะมาซ่อมแซม จึงอยากให้กรมชลประทาน หรือหน่วยงานระดับประเทศ เข้ามาช่วยซ่อมแซม เพราะเป็นถนนที่ใช้ประโยชน์ในหลายด้าน
