ร.ต.ท.จรูญ ได้รับหมายเรียกแล้ว ยัน ครูปรีชา เจรจาขอแบ่งหวย 30 ล้าน แบบวินวิน เผย นายตำรวจระดับสูง เรียกเจรจาอีกรอบ พร้อมขู่ให้รับว่าเก็บได้ ถ้าไม่รับก็ติดคุกตอนแก่ ขณะที่ ครูปรีชา ยืนยันไม่รับคำท้าสาบาน แถมปิดปากเรื่องเจรจาลับ
จากกรณีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ที่อ้างว่าตนเองเป็นผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นจำนวนเงิน 30 ล้านบาท แต่สลากฯ ชุดดังกล่าวหายไป ต่อมา ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการเกษียณตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล จนเกิดการแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ซื้อและถูกรางวัล จนเกิดเป็นข้อสงสัยมานาน 2 เดือน ว่า เจ้าของลอตเตอรี่ที่แท้จริงคือใคร กระทั่ง พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ได้แถลงข่าวสรุปสำนวนการสอบสวนว่า นายปรีชา เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ และได้ออกหมายเรียก ร.ต.ท.จรูญ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา “ยักยอกทรัพย์ตกหล่น” และข้อหา “รับของโจร” เมื่อวานนี้ ซึ่งในเรื่องนี้ยังคงสร้างความครางแคลงใจและเคลือบแคลงสงสัยให้กับสังคมอยู่นั้น
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล เปิดเผยว่า ได้รับหมายเรียกครั้งที่ 1 เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ (1 ก.พ.61) เพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา “ยักยอกทรัพย์ตกหล่น” และข้อหา “รับของโจร” ลงนามโดย พ.ต.อ.ชาตรี ศรีบุญ ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.กาญจนบุรี (ตำแหน่งคณะพนักงานสอบสวน) โดยให้ไปพบในวันที่ 9 ก.พ.61 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ตนจึงได้แจ้งไปยังทีมทนายความ ของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชน และสังคม โดยเบื้องต้นทางทีมทนายได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวนว่าขอเลื่อนการเข้าพบออกไปก่อน แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่แน่นอน ซึ่งการดำเนินการต่อไปก็คงจะต้องรอให้ นายษิทรา กลับมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเดินทางกลับมาในวันที่ 9 ก.พ.ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นคงจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้มากขึ้น
และเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังไปก่อนที่ นายปรีชา จะเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 60 เวลาประมาณ 13.00 น. ร.ต.อ.จิรายุทธ์ ชัชรินทร์กุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เรียกให้ตนไปพบ โดยบอกว่า เรื่องลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 มีคนอ้างว่า ได้ทำลอตเตอรี่หายไป จึงอยากให้ตนไปพบเพื่อเจรจากัน ตนยังพูดกลับไปด้วยความโมโหว่า ก็ให้เขาแจ้งความไปเลย แต่ ร.ต.อ.จิรายุทธ์ ก็พยายามพูดเกลี่ยกล่อมให้ตนไปพบให้ได้ ตนกับภรรยาจึงได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งได้พบ นายปรีชา เป็นครั้งแรก ซึ่งทางนายปรีชา ก็ได้แต่พูดว่า “เราคงทำบุญร่วมกันมา จึงถูกรางวัล และจะแบ่งให้ตนแบบวินวิน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าอะไรแบ่งกันแบบวินวิน แต่ก็ไม่ได้พูดบอกว่าจะแบ่งกันคนละ 15 ล้านบาท เพียงแต่บอกว่าแบ่งกันแบบวินวินเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ยอมอยู่แล้ว และได้แต่นั่งฟัง นายปรีชา พูดเฉยๆ เท่านั้น และไม่ได้พูดตอบโต้อะไร ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าตนเป็นคนซื้อมาและถูกรางวัล จะมาแบ่งอะไรแบบวินวิน เป็นใครๆ ก็ไม่ยอม โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 2-3 ชม. ซึ่งยังไงตนก็ไม่ตกลงด้วย จากนั้นตนและภรรยาก็เดินทางกลับออกมา
และต่อมาช่วงเย็นของวันที่ 29 พฤศจิกายน นายตำรวจระดับสูงก็ประสานให้ตนไปพบที่บ้านพัก ที่อยู่ภายในบริเวณ สภ.เมืองกาญจนบุรี และได้พยายามพูดคุยเกลี่ยกล่อมให้ตนยอมรับว่าเก็บลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลได้ และจะได้มาทำการตกลงกัน แต่หากตนไม่ยอมรับ ก็จะถูกดำเนินคดีติดคุกตอนแก่ ซึ่งตนยืนยันกลับไปว่า ตนเป็นคนซื้อลอตเตอรี่นั้นมาจริง ก่อนตนจะกลับนายตำรวจคนดังกล่าวได้ย้ำว่า ไม่ให้ตนนำเรื่องที่มาพูดคุยนี้ไปบอกกับใคร โดยเฉพาะสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายปรีชา ถึงประเด็นต่างๆ ที่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัย โดย นายปรีชา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ขอพูดถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 ที่ได้มีการพูดคุยเจรจากับ ร.ต.ท.จรูญ หรือแม้กระทั่งการเข้าไปพูดคุยกับนายตำรวจระดับสูงที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรีในวันเดียวกัน อีกทั้งไม่ขอพูดถึงประโยคที่ว่า “เราทำบุญมาร่วมกัน” “วิน วิน” บอกแต่เพียงว่าทุกอย่างอยู่ในสำนวนแล้ว ไม่ขอพูดเรื่องนี้ โดยจะไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และไม่เปลี่ยนใจพร้อมยืนยันไม่รับคำท้าของ ร.ต.ท.จรูญ ที่ชวนไปสาบานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ต่อหน้าศาลหลักเมืองในวันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ.ที่จะถึงนี้ แต่ฝากบอก ร.ต.ท.จรูญ ว่าให้เตรียมตัวไปสาบานต่อหน้าศาล ให้ไปเจอกันที่ศาลแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากเหตุการณ์ที่ นายปรีชา ได้พบกับ ร.ต.ท.จรูญ ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ก็ได้เดินทางเข้าพบนายตำรวจระดับสูงที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 ตามที่ ร.ต.ท.จรูญ ให้ข้อมูล
