เมื่อเวลา 19.30น. วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.ธนเทพ สุวรรณ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายอนุชา คงประพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.บางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ว่าเกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ 4 ต.บางลึก จึงเดินทางพร้อม พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ริมถนนสายบางลึก-เพชรเกษม ฝั่งขาออก ห่างจากปากทางเข้าวัดเจ้าฟ้าศาลาลอยประมาณ 300 เมตร พบชาวบ้านนับร้อยคนกำลังมุงดูเหตุการณ์หน้าบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบนายวุฒิชัย กาลปักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/1 หมู่ 4 ต.บางลึก ผู้ก่อเหตุนั่งรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน เบื้องต้นสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้ขวานจามศีรษะบิดาแท้ๆจนเสียชีวิตอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านเกิดเหตุ พบศพนายเสรี กาลปักษ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเดียวกับนายวุฒิชัย นอนเสียชีวิตบนพื้นในห้องครัว สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมรองเท้าแตะสีดำ ศีรษะข้างซ้ายด้านหน้ามีรอยถูกฟันด้วยของมีคมเลือดไหลนองเต็มพื้น ห่างจากศพประมาณ 2 เมตรพบขวานด้ามเหล็กยาวประมาณ 1.5 ฟุต 1 เล่ม วางพิงลิ้นชักตู้โชว์ข้างเก้าอี้มีพนักและเท้าแขน เจ้าหน้าที่จึงนำนายวุฒิชัยไปควบคุมไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร
เบื้องต้น นายอนุชา คงประพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางลึก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.15น. นายวุฒิชัยเดินมาบอกตนที่บ้านว่า ให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์มาเก็บศพบิดาด้วย ตอนนี้เรื่องมันจบๆไปแล้ว ตนจึงวิ่งมาดูที่บ้านพบนายเสรีนอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดิมพักอยู่กับนายวุฒิชัยที่เลขที่ 93/1 แต่ระยะหลังทั้งสองคนทะเลาะกันบ่อยครั้ง นายเสรีจึงแยกออกมานอนที่บ้านเลขที่ 93 ซึ่งเป็นบ้านของนางเสงี่ยม เภาอรุณ แม่ยายของนายเสรีที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ไม่มีคนอยู่ คาดว่าก่อนเกิดเหตุนายวุฒิชัยและนายเสรีมีปากเสียงกันอีกทำให้นายวุฒิชัยเกิดบันดาลโทสะคว้าขวานทำร้ายนายเสรีถึงแก่ความตาย
เพื่อนบ้านอีกคนหนึ่ง เปิดเผยว่า นายเสรีเป็นคนหัวโบราณและค่อนข้างเจ้าระเบียบ ทุกครั้งที่เห็นลูกชายทำไม่ถูกใจ มักจะดุด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง ส่วนนายวุฒิชัยเรียนจบชั้น ป.6 ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่เป็นคนนิสัยดีไม่ค่อยมีปัญหากับใคร คาดว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะเกิดความกดดันที่ถูกดุด่า
