เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จัดงานแถลงข่าวเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนครั้งที่ 13 “ชมหนังใหญ่ แต่งไทย เที่ยวตลาดด่านขนอน” พร้อมเปิดตลาดวิถีชุมชนแห่งใหม่ “ตลาดด่านขนอน” โดยมี พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน นายณรงค์ศักดิ์ หอมมาลัย ปลัดจังหวัดราชบุรี นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี นายนพรัตน์ รัตนพานิช นายอำเภอโพธาราม และนางผ่องศรี ชัยชนะ สำนักงานวัฒนธรรม จ.ราชบุรี ร่วมแถลงข่าว
พระครูพิทักษ์ศิลปาคมกล่าวว่า หนังใหญ่วัดขนอนได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะการแสดงขั้นสูง โดยการเเสดงในวันงานจะเป็นการผสมผสานงานศิลปะทั้ง 5 แขนง และมีตลาดบกแบบไทยย้อนยุค โดยนำอดีตของ ‘วัดขนอน’ ที่บริเวณริมน้ำแม่กลอง หน้าวัดในอดีตเคยเป็นที่ตั้งด่านเก็บภาษีอากร เป็นพื้นที่ค้าขายและตลาดสินค้า นำจุดนี้มาประยุกต์ใช้ และมีการแต่งกายชุดไทยทั้งหมดในตลาดนี้
โดยความสำคัญของ “หนังใหญ่วัดขนอน” นั้น นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะชั้นสูงแล้ว ในปี พ.ศ.2532 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์มรดกไทย มีดำริให้วัดขนอน ช่วยอนุรักษ์หนังใหญ่ทั้ง 313 ตัว โดยมีมหาวิทยาลัยศิลปากรและจังหวัดราชบุรีรับสนองโครงการพระราชดำริ สืบทอดการแสดง อนุรักษ์ พัฒนา ฟื้นฟู ศิลปะการแสดงหนังใหญ่ไว้จนได้รับรางวัลจาก UNESCO (ยูเนสโก) เป็น 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลกด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมเชิงนามธรรม และเป็นแหล่งอุรักษ์ เรียนรู้ ฝึกฝนศิลปะทุกแขนงที่เกี่ยวกับหนังใหญ่
สำหรับเทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนครั้งที่ 13 จัดงานภายใต้ธีม “ชมหนังใหญ่ แต่งไทย ไปตลาดด่านขนอน” นอกจากจะมีตลาดย้อนยุคแล้ว ทางคณะผู้จัดงานยังหยิบตอนหนึ่งจากเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “ศึกพรหมาศ” มาทำเป็นครั้งแรก ด้วยการสร้างหนังตัวใหม่ขึ้นมา โดยความสูงของหนังประมาณ 3.40 เมตร แกะเป็น “ตัวหนังท้าวโกสีย์ขี่ช้างเอราวัณ” นำมาแสดงผสมผสานร่วมกับนาฏศิลป์ประยุกต์ร่วมสมัย จัดขึ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 13-14 เมษายน ตั้งแต่เวลา 15.00-22.00 น. ณ ลานกลางเเจ้งพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/WatKhanonNangYai
