เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 เมษายน ที่สนามหญ้าภายในลานอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ฝั่งตรงข้ามมณฑลทหารบกที่ 33 อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ กลุ่มประชาชนเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพรวมกว่า 100 คน นำโดยนายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ประธานชมรมร่มบินเชียงใหม่ นายเฉลิมพล แซมเพชร ประธานภาคีฮักเชียงใหม่ นายชัชวาล ทองดีเลิศ ตัวแทนภาคประชาสังคม ดร.จอห์นนพดล วศินสุนทร อดีตกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ในฐานะทีมกฎหมายของมูลนิธิรักษ์ผืนที่ป่าดอยสุเทพ ร่วมชุมนุมและแถลงข่าวความคิดเห็นของเครือข่ายฯ ต่อโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่พักข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการชูป้ายข้อความ แจกสติ๊กเกอร์ขอคืนพื้นที่ป่า ริบบิ้นสีเขียว เพื่อแสดงสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้
โดยเนื้อหาระบุว่า การก่อสร้างดังกล่าวเป็นการทำร้ายจิตใจชาวเชียงใหม่ และชาวไทยทั่วประเทศ สร้างรอยแผลเป็นบนดอยสุเทพ เสมือนเหยียบย่ำ ลบหลู่ครูบาศรีวิชัย และพระธาตุดอยสุเทพ ใช้งบประมาณฟุ่มเฟือย ขัดต่อหลักเศรษฐกิจพอเพียง การก่อสร้างบ้านพักศาลเลือกพื้นที่และใช้ประโยชน์จากที่ดินไม่เหมาะสม ทำลายป่า และระบบนิเวศภูเขา และถึงแม้จะชอบด้วยกฎหมาย แต่ขัดรัฐธรรมนูญ และจรรยาบรรณของผู้พิพากษา กลุ่มเครือข่ายจึงยื่นข้อเสนอขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ด้วยการให้ทุบทิ้งหมู่บ้านตุลาการแห่งนี้ในส่วนที่รุกล้ำแนวป่าดั้งเดิมและให้มีการฟื้นฟูกลับสภาพเดิม
นายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ประธานชมรมร่มบินเชียงใหม่ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เจรจากับตัวแทนศาล เพราะมีการแจ้งยกเลิกการประชุมในบ่ายวันเดียวกันนี้ เพราะเท่ากับว่าผู้ใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน ทั้งที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดในรายการนายกฯพบประชาชนว่าให้มาหาทางเจรจากับประชาชน ตนเองในฐานะประชาชนคนเชียงใหม่ได้คัดค้านเรื่องนี้มาตั้งแต่วันแรกที่มีการก่อสร้าง จนกระทั่งศาลออกมาชี้แจงว่าทุกอย่างถูกกฎหมาย เราก็พยายามคัดค้านมาตลอด จนกระทั่งเวลาผ่านไป 2 ปี จนการก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ และได้เกิดทรรศนะอุจาดต่อสายตาประชาชน เราจึงขอยืนยันเจตนารมณ์ว่า เราต้องการให้ศาลรื้อบ้านพักตุลาการที่สร้างขึ้นโดยไม่มีการต่อรองใดๆ ออกจากผืนป่าดอยสุเทพเท่านั้น
ในขณะที่นายชัชวาล ทองดีเลิศ กลุ่มภาคประชาสังคมเชียงใหม่ หนึ่งในแกนนำมูลนิธิรักษ์ผืนที่ป่าดอยสุเทพ กล่าวว่า อีกไม่กี่วันเชียงใหม่จะมีอายุครบ 722 ปี ดอยสุเทพเป็นศรี ประเพณีเป็นสง่า บุปผชาติล้วนงามตา บ้านพักผู้พิพากษาต้องลงมา เพราะดอยสุเทพคือจิตวิญญาณของคนเชียงใหม่ พื้นที่ก่อสร้างไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง มีการทำลายและตัดต้นไม้จากพื้นที่สีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำลำธารต่อไปจะเกิดความเสียหายมากมาย เพราะสถาบันสูงสุดที่เป็นหลักของประเทศทำเป็นตัวอย่างเสียเอง ควรใช้สามัญสำนึกด้วยการทุบทิ้งและปลูกป่ากลับคืน
ส่วน ดร.จอห์นนพดล วศินสุนทร ทีมกฎหมายมูลนิธิรักษ์ผืนป่าดอยสุเทพ กล่าวเสริมว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดคุ้มครองสิทธิประชาชน แม้ว่าการใช้พื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการจะถูกต้อง แต่ไม่เหมาะสม ผมจึงมีทางออก 2 แนวทาง คือ รวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะขัดจารีตประเพณีคนเชียงใหม่
“ผมขอให้ทุบ รื้อ ทิ้ง และฟื้นฟูป่า ถึงแม้ว่าจะสูญเสียงบประมาณในการก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ก็ปล่อยไปไม่ได้ เพราะต่อไปจะเสียหายยิ่งกว่านี้ในระยะยาว ทำผิดแล้วยอมแก้ไข เราจะเข้าไปช่วยรื้อและปลูกป่าให้ฟรี ทั้งนี้ในระหว่างนี้ได้มีการเตรียมเขียนคำฟ้องต่อศาลปกครองให้ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการให้ศาลอุทธรณ์คืป่าดอยสุเทพด้วย เพราะประชาชนรู้สึกไม่สบายใจ และจะเดินหน้าคัดค้านต่อไปให้ถึงที่สุด”
ทั้งนี้ในวันที่ 8 เมษายนนี้ กลุ่มเครือข่ายฯนัดรวมตัวกันที่หน้าศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา อ.เมือง ในเวลา 08.00 น. เพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านพักตุลาการ โดยจะมีพิธีสาปแช่งและบวชป่าบริเวณเขตป่าโดยรอบบ้านพักตุลาการด้วย
