วันที่ 6 เมษายน 2561 เวลา 11.00 น. พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง และ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฎิมา ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำตัว นายพิสิษฐ์ หรือแบงค์ ไวยภาค อายุ 20 ปี ชาวชุมชนบ้านดง ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณหน้าร้านทองแสงสุวรรณ ซึ่งตั้งอยู่ริมตลาดราชวงศ์ เยื้องธนาคารออมสินสาขาลำปาง ซึ่งเป็นร้านทองที่ถือว่าตั้งอยู่กลางเมืองลำปาง เขต ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง
หลังชายคนดังกล่าวได้ก่อเหตุจะพยายามใช้อาวุธปืนสั้นเข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าว เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 มีนาคม 2561 แต่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินใดไป เพราะไม่สามารถพุ่งกระแทกผ่านกระจกนิรภัยที่ถูกปิดล็อคจากด้านในเข้าไปภายในร้านทองได้ ก่อนที่คนร้ายจะตัดสินใจหลบหนี โดยเปลี่ยนเสื้อผ้า และทิ้งเสื้อผ้า ถุงมือ กระเป๋าเป้ หมวกกันน็อค และรถจักรยานยนต์สภาพเก่าที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ใช้ก่อเหตุไว้บริเวณป่าละเมาะ ใกล้กับอ่างเก็บน้ำ 2 ของการประปาส่วนภูมิภาคลำปาง เขตบ้านกอกชุม ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ห่างจุดเกิดเหตุร้านทอง ประมาณ 1 กิโลเมตร
จากนั้นก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกคันไปซ่อนตัวอยู่ที่หอพักย่านนิคมอุตสาหกรรมใน อ.เมือง จ.ลำพูน นับเป็นการเตรียมพร้อมแผนการมาอย่างดีในการก่อเหตุครั้งนี้ แต่จากข้อมูลการสืบสวน ประกอบกับมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเข้ามา ว่า ชายในภาพที่ก่อเหตุนั้นลักษณะเคยพบเห็น และเคยเป็นลูกจ้าของร้านจำหน่ายอะไหล่รถแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำปาง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเบาะแสของคนร้าย ก่อนที่จะตามไปจับกุมตัวมาได้ในที่สุด
พ.ต.อ.ไกรสิทธิ พรหมปฎิมา ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำปาง กล่าวว่า คนร้ายสารภาพ ว่า ตกงานนานประมาณ 3 เดือน และต้องการเงินสักก้อน เพื่อจะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ประกอบกับจะเอาเงินไปสร้างบ้านให้แม่ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งอาวุธปืนที่ใช้ก็เป็นปืนอัดลม สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหาพยายามชิงทรัพย์ โดยปิดบังใบหน้า เพื่อไม่ให้เห็น หรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
