เร่งตรวจสอบ! ไลน์หลุดซื้อขายใบอนุญาตโรงแรม 3 เเสน-1 ล้าน ระบุเป็นของอดีตบิ๊ก ขรก.ประจวบฯ

เมื่อวันที่ 11 เมษายน นายนิพนธ์ สุวรรณนาวา รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และฝ่ายปกครองจังหวัด เร่งดำเนินการกรณีมีผู้ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ตรวจสอบโรงแรมหลายแห่งมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม 2547 จากนายทะเบียนจังหวัด แต่พบว่าผู้ประกอบการ ไม่ยื่นเอกสารสารใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหรือ อ.1 และ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารที่มีการควบคุม หรือ อ.6 กับเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 44 และประกาศกฎกระทรวงเมื่อปี 2551 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 เนื่องจากเดิมเจ้าของโรงแรมขออนุญาตจากเทศบาลเพื่อก่อสร้างเป็นที่พักอาศัย ล่าสุดทราบว่ามีคำสั่งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งระงับการใช้อาคาร และมีคำสั่งทางปกครองเพื่อพักใช้ใบอนุญาต ทำให้ได้ความเดือดร้อนในการประกอบธุรกิจช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากพบว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการธรรภิบาลจังหวัดได้ที่สำนักงานจังหวัด ศาลากลางชั้น 2 เพื่อนำเข้าที่ประชุมและเสนอถึงสำนักนายกรัฐมนตรี

นายนิพนธ์กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีสำเนาข้อมูลหลุดจากไลน์แอพพลิเคชั่น มีการพูดคุยระหว่างผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดและปลัดอำเภอรายหนึ่ง และมีสำเนาภาพถ่ายอ้างว่ามีผู้ประกอบการจ่ายเช็คเป็นค่าตอบแทนให้ปลัดอำเภอที่เกี่ยวข้องกับซื้อขายใบอนุญาตโรงแรมในหลายอำเภอ ซึ่งก่อนหน้านี้ยอมรับว่าปลัดรายดังกล่าวมีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควรเป็นที่รู้จักของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมบางกลุ่มที่ต้องการวิ่งเต้นซื้อขายใบอนุญาต ล่าสุด ได้แนะนำให้สำเนาเอกสารประกอบข้อมูลการร้องเรียนถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมทั้งการตรวจสอบขอย้อนหลังการออกใบอนุญาตโรงแรมทั้งหมดว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยขอเรียกร้องให้หน่วยงานส่วนกลางทั้งกรมการปกครองและสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปตรวจสอบหน่วยงานในระดับจังหวัดเพื่อให้มีข้อยุติโดยเร็ว

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า สำหรับสำเนาข้อมูลการส่งข้อความผ่านไลน์แอพพลิเคชั่นที่ถูกนำมาเผยแพร่ เป็นการพูดคุยระหว่างข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งก่อนเกษียณอายุราชการในปี 2555-2557 กับอดีตปลัดอำเภอที่ปฏิบัติงานในสำนักงานปกครองจังหวัด โดยเกิดจากความบกพร่องเนื่องจากผู้บริหารรายดังกล่าวได้คืนโทรศัพท์มือถือประจำตำแหน่งก่อนเกษียณ แต่ไม่ได้ลบข้อความเก่าทิ้ง ทำให้ทราบว่าที่ผ่านมามีการวิ่งเต้นซื้อขายใบอนุญาตโรงแรมใน อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี อ.ทับสะแก และ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และโรงแรมในเขต กทม. โดยมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 3 แสน-1 ล้านบาท เนื่องจากหากใช้ขั้นตอนตามปกติจะมีความล่าช้าผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าใบ อ.1 และ อ.6 ให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ เจ้าหน้าที่กองช่าง และฝ่ายปกครองอำเภอ

ด้านนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ( คปต.) กล่าวว่า หลังจากได้รับข้อมูลที่มีการคุยผ่านไลน์ที่มีข้อความและปรากฏภาพอดีตข้าราชการระดับสูงรายหนึ่งส่งข้อความคุยกับปลัดอำเภอกรณีการออกใบอนุญาตโรงแรมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าข้าราชการดังกล่าวเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ยังไม่ถึง 5 ปี ดังนั้น ในกรณีดังกล่าวหลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะต้องนำข้อมูลดังกล่าวไปร่วมตรวจสอบย้อนหลังใบอนุญาตทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเอกสารต้นขั้วที่ปรากฏลายมือชื่อของข้าราชการรายดังกล่าวลงนามไว้ หากผู้ว่าราชการจังหวัดพบเป็นความบกพร่อง ไม่ดำเนินการตามขั้นตอนหรือเอกสารที่ยื่นใบอนุญาตไม่ครบถ้วน จะต้องแจ้ง ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตามกฎหมายกับข้าราชการทุกราย หากผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการถือเข้าข่ายละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ และเรื่องนี้ คปต.จะติดตามอย่างใกล้ชิด หลังจากพบว่าโรงแรมหลายแห่งมีการออกใบอนุญาต แต่ยื่นเอกสารไม่ครบถ้วนทำให้เทศบาลสั่งระงับการใช้อาคาร

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image