สกู๊ปพิเศษ : รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยเชียร์ ‘ช้างศึก’ ทุบหม้อข้าวดวล ‘เวียดนาม’

สถานการณ์ของทีมฟุตบอล “ช้างศึก” ในมหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ที่สุดของชาวอาเซียนอย่าง “ซีเกมส์” มาถึงจุด “แตกหัก” กันแล้ว

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2562 เวลา 15.00 น. จะเป็นวันพิพากษาทีมฟุตบอล “ช้างศึก” ว่า จะได้ไปต่อในรอบรองชนะเลิศ หรือ ตกรอบแรก กีฬาซีเกมส์ เป็นครั้งที่ 3 ในเกมที่จะต้องดวลกับ “ดาวทอง” เวียดนาม ที่สนามบีนาน สเตเดียม เมืองบีนาน ประเทศฟิลิปปินส์

เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างบีบบังคับขุนพลนักเตะจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยากันอย่างมาก เพราะจบ 4 นัด เวียดนามนำเป็นจ่าฝูง มี 12 คะแนน ประตูได้เสีย +13 ตามด้วย อินโดนีเซีย 9 คะแนนเท่ากับ ทีมชาติไทย แต่ว่าประตูได้เสีย +11 ส่วนไทย +10

ส่วน ลาว มี 4 คะแนน สิงคโปร์ 1 คะแนน และบรูไนไม่มีคะแนน ทั้ง 3 ทีมหลัง ไม่มีลุ้นในการเข้ารอบแล้ว
ที่ต้องลุ้นกันนัดสุดท้ายเพื่อเป็น 2 ใน 3 ทีมที่จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ คือ เวียดนาม, อินโดนีเซีย และไทย

Advertisement

นัดสุดท้าย หากทีมช้างศึก ไม่ต้องการสร้างรอยด่างพร้อยให้กับวงการลูกหนังไทยด้วยการตกรอบแรกซีเกมส์ เป็นหนที่ 3 จำเป็นต้อง เอาชนะ เวียดนาม มากกว่า 2 ประตูขึ้นไปก็จะกรุยทางเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแบบไม่ต้องสนใจผลฟาดแข้งอีกคู่ระหว่าง อินโดนีเซีย กับ ลาว

แต่หากขุนพลนักเตะของ อากิระ นิชิโนะ ทำได้แค่ชนะเวียดนาม แค่ 1 ลูก ต้องไปลุ้นให้ อินโดนีเซีย ไม่ชนะ ลาว ซึ่งจะทำให้ไทยกับเวียดนาม กอดคอกันเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไป

หรือถ้าหากว่าไทยทำได้แค่เสมอกับเวียดนาม ก็จะต้องลุ้นให้ ลาว เอาชนะ อินโดนีเซีย มากกว่า 2 ประตูขึ้นไป จึงจะยังได้เข้ารอบอยู่

Advertisement

กรณีสุดท้าย ถ้าไทยแพ้เวียดนาม ก็ต้องลุ้นให้ลาว ชนะ อินโดนีเซีย ด้วยผลต่างที่มากกว่าคู่ของไทย 2 ลูกขึ้นไปเช่นกัน

 

 

 

 

วันที่ 5 ธันวาคม อย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันดีว่า มีความหมายต่อคนไทยมากแค่ไหน เพราะวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” เป็นวันสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ เป็น “วันชาติไทย”

เงื่อนไขนี้ จะทำให้ขุนพลนักเตะจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จะมีความฮึกเหิมเป็นพิเศษ ใส่กันเกินร้อย สู้กันแบบถวายหัว สู้กันแบบลืมตาย

“ช้างศึก” สามารถแพ้ เวียดนาม ได้ทุกวัน แต่ต้องไม่ใช่ วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งคนไทยทุกคนต่างพร้อมใจกันรวมพลังเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยส่งกำลังใจเชียร์พวกคุณอยู่

ย้อนไปเมื่อปี 2014 ในศึกฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ระหว่าง ทีมฟุตบอลไทย ชุดใหญ่ กับ มาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แม้เราจะนำก่อน 2-0 ในนัดแรก แต่เมื่อบุกไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ เราไปพลาดโดนมาเลเซีย ยิงแซง 3 เม็ด สกอร์ตามอยู่ 2-3

ช่วงพักครึ่ง ในหลวง ร.9 ทรงให้ราชเลขาฯ ส่วนพระองค์โทรศัพท์ทางไกลไปยังทีมฟุตบอลไทยพร้อมกับฝากข้อความรับสั่งว่า “เราติดตามฟุตบอลอยู่ ขอส่งกำลังใจไปให้”

นั่นคือ กำลังใจอย่างล้นพ้นที่นักฟุตบอลไทยนำใส่เกล้าใส่กระหม่อมจนเกิดความฮึกเหิม วิ่งสู้ฟัด จนพังประตูไล่มา 2-3 สกอร์รวมชนะ 4-3 คว้าแชมป์ “ซูซูกิ คัพ 2014” ไปครอง

ครั้งนี้วันที่ 5 ธันวาคม 2562 นักฟุตบอลไทย ควรจำไว้ว่า ทุกคนจะต้องสู้เพื่อคนไทย ทุกคนจะต้องสู้เพื่อพระองค์ท่านอีกครั้ง…

บอลเวียดนาม ชุดซีเกมส์ ว่ากันตามตรงไม่ได้มีความน่ากลัวอะไรมากมาย ไม่ได้เหนือกว่าทีม “ช้างศึก” เลยแม้แต่น้อย ใครหลายคนบอกว่า “ช้างศึก” จะสู้เวียดนาม ชุดซีเกมส์ ไม่ได้

ผมไม่เชื่ออย่างนั้น เวียดนามชุดนี้มี ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือโสมขาวจากชุดใหญ่คุมทัพ แต่ “ช้างศึก” ก็มี นิชิโนะ จากชุดใหญ่ คุมทัพเช่นกัน

คุณภาพนักเตะ ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ เวียดนาม ชุดนี้มี เหวียน จองวาง, โด ฮุงดุง, โดน วานเฮา แบ๊กซ้ายจากฮีเรนวีน และเหวียน ตรวง ฮวง ร่วมทัพมา แต่ “ช้างศึก” เองก็มี 3 จตุรเทพ “สุภโชค สารชาติ – ศุภชัย ใจเด็ด – ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา” คอยป่วนแนวรับญวนเช่นกัน

สไตล์เวียดนาม 4 นัดที่ผ่านมา ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวอะไรมาก บอลตามช่องแม่นยำ เหมือนชุดใหญ่ก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เพราะฉะนั้น ผมว่าเราสู้ได้

เกมนี้วัดกันที่ “แท็คติค” ใครละเอียดกว่ากัน วัดกันที่ความมุ่งมั่นใครมีมากกว่ากัน เกมนี้วัดกันที่ข้อผิดพลาด ใครมีมากกว่ากัน ต่างหาก

แถมเกมนี้ยังเป็นการพิสูจน์ “กึ๋น” กันอีกครั้งระหว่าง “นิชิโนะ VS ปาร์ค ฮัง ซอ” อีกด้วย ว่าใครจะชิงไหวชิงพริบได้ดีกว่ากัน…

จะไปกลัวอะไรก็แค่ “เวียดนาม” ถ้าเราจะก้าวข้ามอาเซียนจริงๆ เราต้องผ่าน “เวียดนาม” ไปให้ได้อีกครั้ง แล้วไปให้สุดทางที่บัลลังก์แชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 4 ติดต่อกัน

ถึงเวลาแล้วที่ทีมฟุตบอลช้างศึกจะต้อง “ทุบหม้อข้าว” สู้เพื่อประเทศบ้านเกิดเมืองนอน

ถึงเวลาที่คนไทย จะต้องรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทยส่งกำลังใจไปเชียร์พวกคุณ…

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image