ทัพนักแล่นใบไทยโกย 5 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ในการแข่งขันเรือใบ มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 30 ที่เมืองซูบิค ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม โดยมีการชิงชัยทั้งสิ้น 7 เหรียญทอง
ผลการแข่งขันปรากฏว่า นักเรือใบไทยได้ 5 เหรียญทองจาก พันวา บุณนาค ประเภทออพติมิสต์ ชาย, นัภภัสสร ขุนบุญจันทร์ ประเภทออพติมิสต์หญิง, ชนกชนม์ หวังสุข และปิยะพร เข็มแก้ว ประเภท 420 หญิง, เจตวีร์ ยงยืนนาน และจักรภัทร วิริยะกิตติ ประเภท 420 ชาย และ “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม ประเภทเลเซอร์ เรเดียล
ขณะที่อีก 2 เหรียญเงินได้มาจาก นาวี ธรรมสุนทร และณัฐ บุตรมารศรี ประเภท 470 ชาย และ “ท็อป” กีรติ บัวลง ประเภทเลเซอร์ สแตนดาร์ด โดยทีมเรือใบไทยยังเหลือการแข่งขันอีก 2 รายการในวันที่ 8 ธันวาคม
หลังการแข่งขัน นาวาเอก ยุทธนา อักษรศรี ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมทัพเรือใบชุดซีเกมส์ครั้งนี้ เปิดเผยว่า ก่อนมาแข่งขันสมาคมฯ วางเป้าไว้ 2 ข้อ คือ 1.ทั้ง 9 อีเวนต์ที่จัดแข่งขันทีมไทยจะต้องมีเหรียญรางวัลทั้งหมด และ 2.ตั้งเป้าเหรียญทองไว้ที่ 3 เหรียญ ซึ่งผลของการคว้าเหรียญทองที่ออกมาก็เกินเป้
“ต้องบอกว่านับตั้งแต่เมื่อปี 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ในปีนั้นเป็นปีที่ทีมเรือใบคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดที่จำนวน 7 เหรียญทอง หลังจากนั้นในซีเกมส์แต่ละปีทางสมาคมฯ จะคว้าได้เพียงปีละ 1-2 เหรียญเท่านั้น และจะเป็นมาเลเซียที่เป็นเจ้าทองมาโดยตลอด ผ่านมา 12 ปีถึงเวลาที่ไทยจะกลับมาเป็นเจ้าเหรียญทองอีกครั้งหนึ่งกับผลงาน 5 ทอง 2 เงินจาก 9 อีเวนต์ที่จัดแม้การแข่งขันยังเหลืออีก 2 อีเวนต์ในวันถัดไป และเป็นปีที่มาเลเซียเขายังไม่ได้เหรียญทองเลยด้วย”
นาวาเอก ยุทธนา กล่าวอีกว่า ความสำเร็จในปีนี้ก็คงต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกฝ่ายที่ทุ่มงบให้การสนับสนุนนักกีฬาเรือใบไทยได้ออกไปเก็บตัวและแข่งขันต่างประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการมีผู้ฝึกสอนชาวนิวซีแลนด์มาพัฒนาขีดความสามารถของเด็กไทยด้วย
