ความเคลื่อนไหวของนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยก่อนเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม
“หน่อง” ปลื้มจิตร์ ถินขาว กล่าวว่า หลังจากที่ไปเก็บตัวที่ประเทศญี่ปุ่นทำให้สภาพร่างกายดีขึ้นมาก เพราะได้ฝึกซ้อมเต็มที่ในเรื่องของระบบต่างๆ ที่ต้องแก้ไขกันมาตลอด จากการที่สังเกตเห็นว่าทุกคนร่างกายแข็งแรงขึ้น นอกจากนั้นทีมโอกายาม่า ก็มีการฝึกซ้อมที่ดีมากทำให้ได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ ทั้งเกมรับ เกมสวนกลับ ถือได้ประโยชน์อย่างมาก สำหรับซีเกมส์เป็นการแข่งขันที่วอลเลย์บอลไทยจะคว้าเหรียญทองได้แน่นอน ซึ่งทุกคนในทีมก็มุ่งหวังแบบนั้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามทุกทีมก็พัฒนาขึ้นมาเพื่อจะโค่นไทยให้ได้ ดังนั้นจะต้องรักษามาตรฐานเอาไว้ให้ได้ คู่แข่งที่ต้องระวัง คือ “เจ้าภาพ” ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซียและเวียดนาม ทุกคนในทีมรู้ดีว่าห้ามประมาทคู่แข่งไม่ว่าทีมไหน
“ยังตอบไม่ได้ว่าซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า ยังไม่แน่ใจว่าจะยืนระยะต่อไปอีก 2 ปีได้หรือไม่ คงต้องดูสภาพร่างกายกันอีกครั้ง” หน่องกล่าว
ด้าน “กิ๊ฟ” วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กล่าวว่า ปีนี้ทุกชาติพัฒนาขึ้นมาก เตรียมทีมมาล้มไทยโดยเฉพาะ โดยเฉพาะอินโดนีเซียและฟิลิปินส์ที่มีลีกในประเทศที่ดีขึ้นมากๆ ดังนั้นจึงต้องสู้เต็มที่เพื่อรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้อีกสมัย ที่สำคัญกว่านั้นเป็นการเตรียมทีมเพื่อแข่งขันวอลเลย์บอลโอลิมปิกเกมส์ 2020 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในเดือนมกราคม ปีหน้า ถือเป็นแมตช์เป็นทางการรายการสุดท้ายก่อนจะคัดโอลิมปิก
“ส่วนตัวแล้วหลังจบโอลิมปิกเกมส์ก็คงจะต้องพักก่อน แบ่งเวลาให้ครอบครัว เพราะอยากจะมีลูก หลังจากมีลูกถ้ากลับมาเล่นแล้วเฟี้ยวฟ้าวก็อาจจะกลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง คงต้องรอดูกันต่อไป” กิ๊ฟกล่าว
สำหรับทีมตบสาวไทยคว้าแชมป์ซีเกมส์มาแล้ว 13 จาก 20 สมัย และเป็นแชมป์เก่าติดต่อกัน 11 สมัย นับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อปี 2538 สำหรับครั้งนี้มีเพียง 4 ทีมเท่านั้น คือ ฟิลิปปินส์, ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม
โปรแกรมของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในซีเกมส์ ดังนี้ 3 ธันวาคม พบอินโดนีเซีย / 5 ธันวาคม พบฟิลิปปินส์ / 7 ธันวาคม พบเวียดนาม / รอบชิงเหรียญทองแดงและชิงชนะเลิศ วันที่ 9 ธันวาคม
