ฟุตบอลชายทีมชาติไทยมาซีเกมส์หนนี้ด้วยการเป็นเต็ง 1 พกดีกรีแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน และเป็นเจ้าประจำในมหกรรมนี้มาตลอด
แต่จนถึงตอนนี้เหมือนกับว่าโอกาสที่ไทยจะจบ 1 ใน 2 ของกลุ่มบี มีน้อยกว่า อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ซึ่งต้องลุ้นชนะเวียดนามนัดสุดท้ายให้ได้เพื่อจะต่อลมหายใจเข้ารอบต่อไป สวนทางกับการคาดการณ์ก่อนหน้าจะเดินทางมาฟิลิปปินส์ว่าไทยจะคว้าแชมป์ได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะนักเตะชุดนี้หลายคนโชว์ผลงานที่ดีในทีมชาติชุดใหญ่มาแล้ว และกึ๋นของ อากิระ นิชิโนะ สูงกว่าซีเกมส์มากทีเดียว
งานง่ายๆ อย่างซีเกมส์กลายเป็นงานยากมากๆ ไปแล้ว เพราะการพลาดท่าแพ้อินโดนีเซีย 0-2 ทำให้กีฬาที่แทบจะแบเบอร์เข้ารอบ ไต่อยู่บนเส้นด้าย ถ้าช้างศึกตกรอบแรก นิชิโนะจะเป็นกุนซือคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ทีมซีเกมส์ไทยตกรอบแรก ต่อจาก สตีฟ ดาร์บี้ ที่ทำทีมตกรอบในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ลาว และ “น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิช โค้ชผู้ล่วงลับ ในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ส่วนครั้งอื่นๆ ไทยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ทุกครั้ง
แมตช์สุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ไทยต้องชนะเวียดนามให้ได้ด้วยประตูห่าง 2 ลูก ซึ่งจะเตะกันในวันที่ 5 ธันวาคม ที่เป็นทั้ง วันชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ ของเราทุกคน
สต๊าฟและนักเตะคงได้บอกนิชิโนะแล้วว่าวันที่ 5 ธันวาคม สำคัญกับคนไทยขนาดไหน และเหรียญทองฟุตบอลชายซีเกมส์เป็นอะไรที่มีคุณค่าในความรู้สึกแฟนบอลอยู่เสมอ ผลลัพธ์ในเกมนั้นจะมีผลกับความรู้สึกของแฟนบอลต่อนิชิโนะอย่างปฏิเสธไม่ได้
เรียกได้ว่าเป็นแมตช์ที่ยากที่สุดของกุนซือชาวญี่ปุ่นคนนี้ในการมาทำงานให้ฟุตบอลทีมชาติไทยเลยก็ว่าได้
