บทสรุป ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เช็กผลงาน 6 ชาติใหญ่อาเซียน
มหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พร้อมๆ กับความสมหวังและผิดหวังของชาติต่างๆ ที่เข้าร่วม
ตำแหน่งเจ้าเหรียญทองของปีนี้ตกเป็นของเจ้าภาพ เวียดนาม แบบไม่พลิกโผ คว้าไป 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง ทำเหรียญรวม 446 เหรียญ จากที่มีการชิงชัยทั้งสิ้น 525 เหรียญทอง
เรียกว่าทัพนักกีฬาเจ้าภาพทำผลงานได้ทะลุเป้าไปมาก เพราะก่อนหน้าการแข่งขันจะเปิดฉาก ทางองค์กรกีฬาของเวียดนามตั้งเป้าคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง แต่ประเมินไว้ว่าจะทำได้ราว 140-150 เหรียญ ซึ่งเป็นจำนวนเท่าๆ กับที่ทำได้ตอนเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ ครั้งที่ 22 เมื่อปี 2003 โดยทำไว้ 158 ทอง 97 เงิน 91 ทองแดง
สำหรับกีฬาที่ทำเหรียญให้เจ้าภาพเป็นกอบเป็นกำมากที่สุดคือ กรีฑา ทำไป 22 ทอง รองลงมาคือ มวยปล้ำ 17 ทอง ขณะที่กีฬาในกลุ่มกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งเจ้าภาพบรรจุเข้าไปเพื่อเป็นกีฬาโกยเหรียญนั้น ก็ถือว่าเป็นไปตามที่คาดหวัง ได้โดยจากคูราช 7 ทอง, โววินั่ม 6 ทอง, วูซู 10 ทอง, ฟินสวิมมิ่ง 10 ทอง
ไฮไลต์สำคัญของทัพนักกีฬาเจ้าภาพคงไม่พ้นการป้องกันแชมป์ฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิงโดยเอาชนะทีมไทย คู่ปรับสำคัญ ได้ในรอบชิงทั้ง 2 ทีม ยิ่งเพิ่มระดับความสะใจยิ่งขึ้นไปอีก
สำหรับ อินโดนีเซีย ซีเกมส์ครั้งนี้คว้าอันดับ 3 ของตาราง กับผลงาน 69 ทอง 91 เงิน 81 ทองแดง รวม 241 เหรียญ โดยกีฬาที่ทำเหรียญให้ทัพนักกีฬาอินโดนีเซียมากที่สุดคือ ยิงปืน กับเรือกรรเชียง ซึ่งต่างทำไป 8 เหรียญทองเท่าๆ กัน รองลงมาคือเรือแคนู-คยัค 6 เหรียญทอง และยิงธนู 5 เหรียญทอง แต่ที่เป็นไฮไลต์ส่งท้ายต้องยกให้เหรียญทองบาสเกตบอลชาย ซึ่งนักยัดห่วงแดนอิเหนาปราบฟิลิปปินส์ มหาอำนาจกีฬาบาสของภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นแชมป์เก่า 13 สมัยซ้อนลงได้อย่างเหลือเชื่อ 85-81 ในการแข่งขันนัดสุดท้าย
ถึงจำนวนเหรียญทองของอินโดนีเซียจะไม่เท่ากับครั้งที่แล้วที่ทำได้ 72 เหรียญ แต่ ไซนูดิน อมาลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาของประเทศก็มองว่า การจบอันดับท็อป 3 ตารางเหรียญได้ ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และแสดงให้เห็นว่าแผนพัฒนาการกีฬาของประเทศมาถูกทางแล้ว โดยมีเป้าหมายยิ่งใหญ่อย่างการติดอันดับท็อป 5 ตารางเหรียญใน โอลิมปิกเกมส์ 2044 หรือในอีก 22 ปีข้างหน้าให้ได้
ด้าน ฟิลิปปินส์ จบอันดับ 4 ของตาราง กับผลงาน 52 ทอง 70 เงิน 104 ทองแดง รวม 226 เหรียญ โดยกีฬาชูโรงคือ ยิมนาสติก ทำไป 7 เหรียญทอง โดยเฉพาะ คาร์ลอส ยูโล นักยิมศิลป์ชายที่กวาดไป 5 ทองจากบุคคลรวมอุปกรณ์, ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์, ห่วง, ราวเดี่ยว และม้ากระโดด
สำหรับทัพนักกีฬาตากาล็อก ถือว่าผิดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนแข่ง โดย เรย์มอนด์ เฟร์นานเดซ หัวหน้าคณะนักกีฬาฟิลิปปินส์ ยอมรับก่อนซีเกมส์จะเริ่มขึ้นว่า เป็นเรื่องยากที่ฟิลิปปินส์จะจบในตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเหมือนตอนตัวเองเป็นเจ้าภาพ ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยหลายๆ ปัจจัย แต่อย่างน้อยต้องพยายามจบอันดับท็อป 3 ของตารางเหรียญให้ได้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่แค่จบอันดับ 4 แต่ยังเบียดแย่งตำแหน่งกับสิงคโปร์แบบสูสีสุดสุดยันวันสุดท้าย
ในส่วนของ สิงคโปร์ จบอันดับ 5 ของตารางเหรียญ ทำไป 47 ทอง 46 เงิน 73 ทองแดง รวม 166 เหรียญ โดยกีฬาว่ายน้ำยังคงเป็นกีฬาโกยเหรียญของทัพนักกีฬาลอดช่อง ทำไป 21 ทอง หรือเกือบครึ่งของเหรียญทองทั้งหมดที่พวกเขาทำได้
ก่อนหน้าการแข่งขัน ซู ชุน เหว่ย อธิบดีสถาบันกีฬาแห่งสิงคโปร์ เผยกับสื่อว่า สิงคโปร์ไม่ได้ตั้งเป้าหมายเรื่องเหรียญรางวัลเอาไว้ แต่เน้นให้ทำสถิติส่วนบุคคลให้ดี โดยผลงานที่ดีที่สุดในการร่วมแข่งขันซีเกมส์ที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าภาพคือเมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย ทำไว้ 58 ทอง 58 เงิน 72 ทองแดง ส่วนครั้งที่แล้วทำได้ 53 ทอง 46 เงิน 68 ทองแดง
ถึงจะไม่มีเป้าหมายเรื่องเหรียญรางวัลชัดเจน แต่ในแง่สถิติที่ประกาศไว้แต่แรกก็ถือว่าน่าพอใจ ทำลายสถิติซีเกมส์ 5 รายการ, สถิติประเทศ 12 รายการ และสถิติส่วนบุคคล 34 รายการ
ในบรรดาชาติใหญ่ของภูมิภาคอาเซียน อาจกล่าวได้ว่า มาเลเซีย ทำผลงานน่าผิดหวังที่สุด จบอันดับ 6 ของตาราง ทำไป 39 ทอง 45 เงิน 90 ทองแดง รวม 174 เหรียญ กีฬาทำเหรียญมากที่สุดคือ กระโดดน้ำ กวาดไป 8 ทอง
งานนี้ อาหมัด ไฟซาล อาซูมู รัฐมนตรีกีฬาของแดนเสือเหลือง ปรารภเลยว่า ชาวมาเลเซียทั้งประเทศรู้สึกผิดหวัง เพราะถึงจะทำได้ทะลุเป้าที่คาดไว้ 36 เหรียญทอง แต่การจบอันดับ 6 ของตาราง เป็นอันดับเหรียญรางวัลที่แย่ที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี โดยหนสุดท้ายที่มาเลเซียจบอันดับ 6 คือปี 1983 ที่ตอนนั้นมี 8 ชาติเข้าร่วม
สำหรับ ไทย เรา จบอันดับ 2 ของตาราง ผลงาน 92 ทอง 102 เงิน 138 ทองแดง รวม 332 เหรียญ ถือว่าผิดเป้าจากที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประเมินไว้ 112 เหรียญทอง เช่นเดียวกับเป้าหมาย 116 ทอง จากงานแถลงข่าว “มีต เดอะ เพรส” ซึ่งจัดโดย สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย
ถึงอันดับตารางจะถือว่าดี และมีนักกีฬาหลายคน หลายชนิดกีฬาทำผลงานโดดเด่นขึ้นมา แต่เรื่องเป้าหมายเหรียญทองที่พลาดเป้าไปร่วม 20 เหรียญนั้น ก็เป็นปัญหาที่ผู้เกี่ยวข้องต้องกลับมาคิดแก้ไขกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับซีเกมส์หนต่อไปในปีหน้า
