เปิดใจญาติใกล้ชิด แพรวา ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น ป่วยซึมเศร้า-คิดสั้นหลายรอบ
จากกรณีอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ น.ส. แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ บนทางยกระดับโทลล์เวย์ขาเข้า ช่วงด้านหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนปัจจุบันผ่านมา 9 ปีแล้ว แต่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพยังไม่ได้รับการเยียวยาจากแพรวาและครอบครัว
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ญาติใกล้ชิด แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ อรุณวงศ์ เปิดเผยมติชนออนไลน์ว่าทุกคนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของผู้ชีวิตทั้ง 9 ราย ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาได้บอกทางแม่น้องแพรวาไปว่าเมื่อศาลตัดสินแล้วเราก็ต้องชดใช้จ่ายให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ทางครอบครัวก็พร้อมที่จะชดใช้อยู่แล้ว มีการนำทรัพย์สินทยอยออกมาขาย อย่างแหวนเพชรที่มีอยู่ก็ขายออกมา เพื่อที่จะนำเงินไปช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิต
ส่วนเรื่องที่ดิน บ้านต่างๆ ได้พยายามขายมาก่อนหน้านี้ แต่ยอมรับว่าขายค่อนข้างยาก พอทุกคนรู้ว่าเป็นที่ของใคร
ญาติใกล้ชิดกล่าวด้วยว่า สำหรับน้องแพรวานั้นที่ผ่านมาได้พาไปโกนหัวบวชชี เพื่ออุทิศ แผ่เมตตาให้กับผู้ที่เสียชีวิต ได้พยายามบอกว่าต้องสวดมนต์อุทิศให้คนที่เสียชีวิต ยอมรับว่าสำหรับเด็กอายุ 16 ปีในขณะนั้น มีผลต่อสภาพจิตใจมาก โดยเฉพาะโลกโซเชียลที่รุมซ้ำ ตอนเกิดเหตุเขาโทรมาหาบอกว่า “หนูเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่กล้ากลับไปบ้านกลัวที่บ้านว่า”
“ตอนนี้เค้าเหมือนตายทั้งเป็น ออกไปไหนมาไหนไม่ได้ กลายเป็นโรคซึมเศร้า เคยคิดสั้นหลายรอบแล้ว ไปสมัครงานที่ไหน ไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้โดนแบล็กลิสต์หมด ครั้งหนึ่งเคยเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการซึมเศร้า ก็มีคนตามจนต้องพาออกมาจากโรงพยาบาล” ญาติใกล้ชิดกล่าว และว่า
ส่วนกรณีที่แพรวาแต่งงานนั้น ตอนนั้นคิดว่าเป็นเรื่องดีที่คนเข้ามาในชีวิต ยอมรับและเข้าใจ แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป
