วันนี้ (14 ธ.ค.) ในอินสตาแกรมของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เป็นบทกวีของ Martin Niemöller บาทหลวงชาวเยอรมัน สะท้อนถึงการนิ่งดูดายของคนกลุ่มต่างๆรวมถึงตัวเขาเอง ที่ไม่ได้ทำอะไรในช่วงที่พวกนาซีทำการกำจัดกลุ่มต่อต้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้าย ทุกคนได้รับผลกระทบและประเทศชาติต้องล่มสลาย
โดยระบุว่า
Martin Niemöller เป็นบาทหลวงชาวเยอรมัน นิกาย Lutheran ที่สนับสนุนการขึ้นมาสู่อำนาจของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และ พรรคนาซี ต่อมาเมื่อฮิตเลอร์มีนโยบายให้รัฐมีอำนาจเหนือศาสนา เขาจึงได้ตระหนักถึงความจริงและได้เปลี่ยนมาเป็นผุ้นำกลุ่มบาทหลวงที่ต่อต้านฮิตเลอร์
เขาถูกจับในปี 1937 และถูกส่งเข้าค่ายกักกันที่ Sachsenhausen and Dachau เขาโชคดีที่รอดชีวิตมาได้และถูกปลดปล่อยโดยทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในปี 1945
Martin Niemöller ได้เขียนบทกวีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สะท้อนถึงการนิ่งดูดายของคนกลุ่มต่างๆรวมถึงตัวเขาเอง ที่ไม่ได้ทำอะไรในช่วงที่พวกนาซีทำการกำจัดกลุ่มต่อต้านต่างๆอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้าย ทุกคนได้รับผลกระทบและประเทศชาติต้องล่มสลาย
บทกวีนี้มีชื่อว่า “First they came …”
First they came for the socialists, and I did not speak out—
Because I was not a socialist.
Then they came for the trade unionists, and I did not speak out—
Because I was not a trade unionist.
Then they came for the Jews, and I did not speak out—
Because I was not a Jew.
Then they came for me—and there was no one left to speak for me.
“ตอนแรก เขามา ……”
ตอนแรก เขามาจับพวกนักสังคมนิยม
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะผมไม่ใช่นักสังคมนิยม
ต่อมา เขามาจับพวกสหภาพแรงงาน
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะผมไม่ใช่สหภาพแรงงาน
ต่อมา เขามาจับคนยิว
ผมไม่ได้พูดอะไร เพราะผมไม่ใช่คนยิว
ต่อมา เขามาจับผม
และก็ไม่เหลือใคร ที่จะช่วยพูดให้ผมแล้ว
(ภาพจาก: https://www.christianitytoday.com)
งานนี้ทำเอาคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก อาทิ
แนวคิด วิสัยทัศน์ การปฏิบัติ ตรงกับคุณสมบัติผู้นำที่ดีทุกประการ อยากให้มีโอกาสทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองค่ะ
ใช่ครับ คนเราอยู่ในสังคมเดียวกัน ร่วมแผ่นดินกัน ถ้าเห็นความไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม อย่านิ่งเฉย เพราะมันไม่เดือดร้อนเรา ช่วยเท่าที่ช่วยได้
ถ้าปล่อยมันไป
วันนึงมันจะทำให้ไม่มีใครมาช่วยร่วมต่อสู้ความอยุติธรรมนั้นร่วมกับเราเลย
ขอบคุณ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
