| ที่มา | มติชนออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
คืบหน้ากรณีนายสุทธิศักดิ์ หรือบอม สินเจริญ นักร้อง นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.แสดงความอัดอั้นจากสาเหตุที่ตำรวจจราจรบังคับภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์เป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์หลายครั้งในช่วงกลางดึก ทั้งที่ท้องมีขนาดใหญ่จึงเป่าได้ไม่เต็มที่ โดยนายสิทธิ์ศักดิ์ ยังโพสต์เปรียบเปรยถึงความรู้สึกของตนว่า “ตำรวจเหมือนก้อนกรวดในรองเท้า” พร้อมเปิดเผยแระสบการณ์ในด้านลบอีกหลายเรื่องที่ตนได้เจอ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน และ สน. ห้วยขวาง ซึ่งดูแลพื้นที่บริเวณที่คาดว่าจะเป็นจุดเกิดเหตุ ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บอม สินเจริญ ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง ระบุว่าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. “สารวัตรเอ็ด” หัวหน้าการจราจร สน.มักกะสัน และครอบครัว คือภรรยาและบุตรชายได้เดินทางไปพบตนที่บ้าน มีการดื่มกาแฟและพูดคุยเรื่องราวต่างๆ โดยนักร้องรายดังกล่าวระบุว่า ตนไมได้ต้องการอะไรจากใครทั้งสิ้น แต่เป็นเพียงหนึ่งเสียงสะท้อนของมวลชนเท่านั้น
ข้อความมีดังนี้
สารวัตรเอ็ด และครอบครัวมาหาผมตอนเที่ยงๆ เมื่อวาน!!! สนทนากันอยู่นาน ลูกน้อยหนึ่งคนกับภรรยาน่ารัก
คุยไปหัวเราะไป คุยไปยิ้มไป สลับกับคุยไปขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปาก แล้วทำท่าครุ่นคิดกันไป!!!
กลมกล่อม!!!!
จากตำรวจชั้นผู้น้อย ใช้ความเพียรพยายาม!!สอบนายร้อย จนปัจจุบัน เป็นหัวหน้าการจราจรสน. มักกะสัน
ได้ฟังเรื่องแบบนี้แล้ว ก็มองเห็นถึงความมานะในทางเดินของคน รักความก้าวหน้า
……
สารทุกข์สุกดิบ แล้วจิบกาแฟ!!!!
ตั้งแต่วันเสาร์ ก็มี สีสันในชุดแบบสีกาแฟ มาถามไถ่ข่าวคราว จากผมบ้าง!!!
เวลาพูดคุยกัน ก็คุยกันแบบคนไทย การคุยแบบคนไทย คือถ้อยทีถ้อยอาศัย!!!!
…….
บทความและข้อคิดเห็นก็ทำหน้าที่ของมัน เสียงสะท้อนของมวลชนก็ทำหน้าที่ของมัน การสนทนาผ่านหูโทรศัพท์
การสนทนาผ่านการพิมพ์ข้อความ ก็ทำหน้าที่ของมัน แต่มันไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์และรสชาติความกลมกล่อมเหมือนการสนทนาแล้วเราได้พบหน้ามองตากัน!!!!!
ไมตรีจิตก็ทำหน้าที่ของมัน
ไม่มีอะไรเกี่ยวกับสน. มักกะสันและผมไม่ได้ต้องการสิ่งใดจากใครทั้งสิ้น!!!
มันเป็นแค่เสียงสะท้อนของผม บางครั้งเสียงสะท้อน ถ้ามันเบาๆ ก็ไม่มีใครเขาได้ยิน?
แต่พอเป็นเสียง จากปวงชนหลายคนเสียงมันก็ดังขึ้น!!!!
ให้ได้ยิน และฉุกคิด!!!
กีตาร์หนึ่งตัวในร้าน เสียงดังได้ประมาณหนึ่ง
กีตาร์ 140 กว่าตัวในร้าน ดีดพร้อมกัน บางตัวดีดแรงบางตัวดีดเบา
บางตัวแค่เกาสาย แต่เล่นเพลงๆเดียวกัน ยังไงเสียงก็ดังกว่าตัวเดียว!!!!
บางที!ผู้ฟังก็นึกสนุก หยิบกีตาร์ขึ้นมาเล่นด้วย จากผู้ฟังก็กลับกลายเป็นผู้เล่น เล่นในเพลงเดียวกัน
ร้องเพลงๆเดียวกัน
แค่นึกก็เห็นภาพแล้วว่า เพลงๆนั้น กีต้าร์ทุกตัวก็จะจับคอร์ดเดียวกัน
เนื้อร้องก็จะร้องเนื้อร้องเดียวกัน ไม่มีใครแหกคอร์ด ไม่ใครแหกเนื้อร้อง!!!
ต่อมา ในวันที่ 27 มิ.ย. บอม สินเจริญ ยังเปิดเผยเรื่องราวเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.มักกะสัน สน.ดินแดง และจากกองบังคับการตำรวจจราจรกลาง รวม 4 นาย เดินทางไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตนทั้งเรื่องด่านตรวจ และประสบการณ์การทำงาน โดยระบุว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างนุ่มนวล ตรงไปตรงมาและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ข้อความมีดังนี้
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
รองผู้กำกับคุณแอ๋มจากมักกะสัน&คุณจีจากดินแดง
คุณแชมป์จากจราจรกลาง
พี่โรม สารวัตรจราจรดินแดง
…….ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ทั้งเรื่องด่านตรวจและนานาทัศนะ แชร์ประสบการณ์
การทำงานระหว่างกัน
ด้านนอก วันนี้นั้น ฝนมาจากฟ้า ลมแรง
ผมไปธุระข้างนอกวิ่งฝ่าฝนมา
เปียกพอฉ่ำๆ เมื่อรู้ว่าทุกท่านมารอผมที่ร้าน
บรรยากาศ พูดคุยนุ่มนวล
ผมนำเสนอความคิดในทิศทางที่ควรจะเป็น
และมั่นใจว่าอยู่บนพื้นฐานของการ
“สร้างสรรค์”
มันอาจไม่ใช่เพียงเสียงสะท้อน
และความคิดของผมคนเดียว
แต่มันรวมถึงเสียงสะท้อนจากมวลชนในสังคมไทย
เราคุยกันตรงไป-ตรงมา
ตรงมา-ตรงไปแบบให้เกียรติกัน
