‘วัน’ โชว์ภาพหายาก ‘ส.อ.เฉลิม’ สมัยเป็นครูฝึก ร.ร.สารวัตรทหาร ย้อนอ่านสัมภาษณ์ปี 55 เผยที่มาการเป็นตำรวจ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยภาพถ่าย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สมัยเป็นครูฝึกโรงเรียนสารวัตรทหาร ในยศ ส.อ.เฉลิม ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่าเป็นภาพหาดูยาก เมื่อ 50 ปีก่อน ก่อนจะระบุกับผู้สื่อข่าว “มติชน” ภายหลังว่า ที่ลงรูปดังกล่าวเพราะเห็นว่ารูป ร.ต.อ.เฉลิม เท่ ไม่ได้ต้องการจะสื่ออะไร

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายเกิดคำถามว่า ทำไม ส.อ.เฉลิม เป็นนายสิบทหารถึงมาเป็นตำรวจได้ ทั้งนี้ เมื่อสืบค้นประวัติของ ร.ต.อ.เฉลิม พบว่าได้ให้สัมภาษณ์กับ “มติชน” คอลัมน์จุดเปลี่ยน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ระบุว่า

ช่วงวัยเรียนอาศัยอยู่ในย่านบางขุนเทียน สมัยนั้นคือชาวสวน ไม่มีถนนหนทาง พ่อ (ร.ต.ต.แฉล้ม อยู่บำรุง) เป็นตำรวจชั้นประทวน แม้จะเป็นเพียงจ่า 4 บั้ง แต่ก็อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความเป็นเด็กรักการเรียนและเรียนเก่ง ด.ช.เฉลิมได้เข้าเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ย่านบางขุนเทียน จึงตัดสินใจมาเป็นเด็กวัดที่วัดกำแพง (ย่านบางขุนเทียน)

“ระหว่างที่ผมเป็นเด็กวัดวัดกำแพง ก็มีการจัดงานประจำปีของวัด และคนแถวนั้นก็เป็นคนสวน เมื่อมางานวัดมีการกินเหล้าเมายากัน แล้วก็ตีกัน ตำรวจเข้าไประงับเหตุ ไม่มีใครฟังตำรวจเลย ปีต่อมาจึงมีการจ้างสารวัตรทหารมารักษาการณ์ในงาน ซึ่งชาวบ้านก็ยังเมาและตีกันเหมือนเดิม แต่สารวัตรทหารไม่สนใจ ใช้หมวกไฟเบอร์ทหารสีขาว ตบ ตี คนที่ตีกัน แต่ชาวบ้านกลับถูกใจ ผมเห็นก็รู้สึกว่าอาชีพนี้มันใหญ่ดี เมื่อมีการเปิดสอบทหาร ผมก็ไปสอบที่มณฑลทหารบกที่ 1 เขารับ 7 คน ผมได้ที่ 1 ทั่วประเทศรับ 30 คน ผมก็เข้าไปเรียน” รองนายกฯเฉลิม (ตำแหน่ง ณ ขณะนั้น) เล่า

Advertisement

แต่หลังจากเข้าเรียนได้เพียง 2 สัปดาห์ หลายอย่างก็ทำให้เขารู้ว่า เส้นทางอาชีพทหารในยศ “นายสิบ” นั้นโอกาสก้าวหน้าแทบจะไม่มี เขาจึงตัดสินใจว่า เมื่อเรียนจบก็จะ “ลาออก”!

“ตอนแรกผมคิดว่าจะลาออกเลย แต่ครูฝึกบอกว่าถ้าลาออกจะต้องไปเป็นทหารเกณฑ์อีก 1 ปี ก็เลยตัดสินใจเรียนให้จบ แต่ระหว่างเรียนก็มีคนแนะนำเส้นทางว่าถ้าเรียนได้ที่ 1 ของรุ่นก็จะได้ไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งจะมีโอกาสเป็นนายร้อย ก็เลยตั้งใจเรียน แต่สุดท้ายคะแนนก็แพ้เพื่อนในรุ่นที่ได้ที่ 1 ไปแค่ 1 คะแนน ทำให้ผมไม่ได้ไปเรียนเตรียมทหาร แล้วก็ได้บรรจุเข้าเป็นครูฝึก โรงเรียนสารวัตรทหาร และฝึกนักเรียนรุ่นน้อง”

จากนั้น “นายสิบเฉลิม” ก็รับราชการเป็นครูฝึก โรงเรียนสารวัตรทหารอยู่ 7 ปีเต็ม ซึ่งตลอดเวลาเขาได้คิดทบทวนเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ และด้วยความที่เป็นลูกตำรวจ ที่เชื่อว่าตำรวจจะมีสวัสดิการที่ดีกว่าทหาร จึงทำเรื่องขอโอนย้ายสังกัดไปอยู่ “กองปราบปราม” (ปัจจุบันใช้ชื่อว่ากองบังคับการตำรวจปราบปราม) หรือที่เรียกกันติดปากสมัยนั้นว่า “กองปราบสามยอด” เพื่อเป็นตำรวจ

Advertisement

“ช่วงต้นปี 2512 ผมถูกเรียกไปทดสอบทุกขั้นตอน ทางตำรวจจึงรับโอน จากสิบเอกทหารบก สังกัดกองพันนักเรียนนายสิบ มาเป็นผู้บังคับหมู่ แผนก 5 กอง 2 กองปราบ หรือคอมมานโด ในช่วงปี 2513 ได้ยศ ส.ต.อ. ซึ่งขณะนั้นมีทุนนักเรียนอังกฤษ ให้ตำรวจสอบไปเรียนหลักสูตรปราบจลาจล ที่ประเทศมาเลเซีย ผมสอบได้ และได้ไปเรียน 7 สัปดาห์ เข้าสู่ปี 2515 ก็มีการเปิดสอบนายตำรวจสัญญาบัตรสายสอบสวน ผมมีสิทธิได้สอบ 3 สนาม พอถึงเวลาประกาศผลสอบ ผมถูกร้องเรียน หาว่าจ้างคนไปสอบแทน เพราะไม่มีใครคิดว่าคนที่ย้ายมาจากทหาร และจะสอบสายสอบสวนได้ สุดท้ายก็มีการให้คัดลอกลายมือ ให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบ ว่าใช่ลายมือผมจริงหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็ได้รับการยืนยันว่าผมทำข้อสอบเอง”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image