สลด หนุ่มวัย 45 รอตรวจโควิด เสียชีวิตลำพังในห้องพัก เพื่อนเผยไป รพ.หลายครั้งแต่คิวเต็ม

สลด หนุ่มวัย 45 รอตรวจโควิด เสียชีวิตลำพังในห้องพัก เพื่อนเผยไป รพ.หลายครั้งแต่คิวเต็ม เผยข้อความสุดท้าย จะพยายามเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสลด ชายวัย 45 ปี ที่อยู่ระหว่างการรอตรวจเชื้อโควิด หลังพบเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า จากญาติที่ต่างจังหวัดช่วงสงกรานต์ กลับมา กทม. เริ่มมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโควิด

หลังจากไปตรวจหาเชื้อครั้งแรก พบว่าไม่ติดเชื้อ จึงกักตัวและรอไปตรวจเชื้อซ้ำ แต่ไปต่อคิวตรวจที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่ง รับตรวจเชื้อแค่ 20 คนต่อวัน วันแรกคิวเต็ม จึงไปต่อคิววันถัดไปอีกครั้ง ตั้งแต่ตี 5 รับบัตรคิวแต่คิวก็เต็ม จึงมาลงทะเบียนรอตรวจกับประกันสังคม ได้คิวตรวจวันที่ 27 เมษายน

จากนั้น คืนวันที่ 25 เมษายน ผู้ป่วยอาการหนัก ไอหนัก หายใจเองไม่ได้ จึงได้โทรหาญาติที่ต่างจังหวัด ญาติจึงประสาน 1669 แต่สัญญาณขึ้นที่จังหวัดที่อยู่ จึงต้องประสานข้อความช่วยเหลือ นิติคอนโด โดยนิติแจ้ง 1669 และ 1668 แต่ปลายสายให้ผู้ป่วยโทรเอง และขอเบอร์ผู้ป่วยจะโทรกลับเอง ซึ่งได้แจ้งไปแล้วว่าผู้ป่วยอาการหนัก หายใจติดขัดและนอนนิ่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังยืนยันจะคุยกับผู้ป่วยเท่านั้น

กระทั่งวันที่ 26 เมษายน เจ้าหน้าที่ติดต่อผู้ป่วยไม่ได้ จึงเดินทางมาที่คอนโด และพบว่าหมดสติ หายใจอ่อน ปั๊มหัวใจแต่ไม่ทัน เสียชีวิตในห้อง ข้างศพมีเอกสารเตรียมจะไปตรวจหาเชื้อโควิด

Advertisement

หลังจากเสียชีวิต ศพยังถูกทิ้งไว้ถึง 8 ชั่วโมงในห้อง ภายในคอนโด ย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เพื่อรอการชันสูตรศพ โดยแพทย์ชันสูตรระบุว่า ระบบหัวใจล้มเหลว แต่ญาติเชื่อว่า ผู้ป่วยนั้นติดเชื้อโควิด รอรับการตรวจเชื้อจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม พบว่า ญาติระบุว่าขาดการติดต่อกันหลายปี ไม่รู้ว่าน้องชายป่วย ไร้การช่วยเหลือ หากน้องได้ไปตรวจเชื้อ ได้รับการรักษา คงไม่เสียชีวิตสุดเวทนา วอนภาครัฐ ขอให้น้องชายเป็นกรณีสุดท้ายที่รอการรักษาจนตาย

จากนั้น นายบิว เพื่อนของผู้เสียชีวิต ได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า นายเอกเดินทางมาเยี่ยมที่หนองคาย กระทั่ง 15 เมษายน นายเอกบินกลับ ตนเริ่มมีอาการ และตรวจพบว่าเป็นโควิด และได้บอกให้นายเอกไปตรวจ

Advertisement

ทุกคนเริ่มเอาใบรับรองแพทย์ของตนเองไปยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงทุกคนก็ได้รับการตรวจที่รวดเร็ว จนมาถึงเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ช่วงบ่าย นายเอก ได้เอาใบรับรองไปยื่นให้กับทางโรงพยาบาลศิริราช แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่ารับตรวจเพียงแค่ 20 คนต่อวัน ให้มาแต่เช้า ซึ่งในขณะนั้น นายเอก ไม่มีอาการอะไรเลย แต่บอกกับทางพยาบาลไปแล้วว่า มีความเสี่ยงสูงพร้อมกับยื่นใบยืนยันให้แต่พยาบาล บอกให้กลับมาใหม่ วันต่อ นายเอกไปถึงที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อช่วง 5.30 น. แต่ว่าคิวเต็มแล้ว พยาบาลก็แจ้งว่าไม่มีตรวจเพิ่มให้กลับบ้านและมาอีกทีในวันต่อไป

นายเอก กลับห้องมาแล้วรู้สึกเหนื่อย เริ่มไอ จึงได้ไปหาซื้อยามาประคองอาการของตัวเองเอาไว้ และกักตัวอยู่แต่ในห้อง จากนั้นก็ลงทะเบียนที่ประกันสังคม ได้วันที่ 24 เม.ย. ช่วงบ่าย แต่ว่า สสจ.หนองคาย ได้โทรประสานมายังนายเอกว่าได้รับการตรวจโควิดหรือยัง เมื่อทราบว่ายังไม่ได้รับการตรวจจึงได้ประสานงานไปยัง บ้านเจ้าอาม สาธารณสุขที่จรัญฯ และแจ้งกลับมาว่าจะได้เข้ามาตรวจโควิดในวันที่ 27 เม.ย. ตนก็เลยถามว่า ทำไมถึงเลือกวันที่ 27 เม.ย. แต่นายเอกบอกว่า จะได้ไม่ต้องไปต่อแถว ประกอบกับอาการ เบื้องต้นของนายเอกตอนนั้น เขาบอกว่า เขายังไหวอยู่ เพราะไม่มีไข้ ไออย่างเดียว

ต่อมา นายเอก บอกตนว่าพยายามติดต่อเขาให้น้อยลงหน่อย เพราะว่าเขารู้สึกเหนื่อย จะทำอะไรก็เหนื่อยไปหมด พิมพ์ไลน์ไป ก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เขาบอกว่าเขาจะเก็บแรงเอาไว้ ตนเห็นว่าอาการไม่ดี ให้ไปตรวจ เขาก็ไม่กล้า เดี๋ยวโดนไล่กลับอีก แต่เมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย. นายเอกโทรมาบอกว่า เขาต้องผ่านมันไปให้ได้ เหลืออีกแค่คืนเดียวเอง เขาก็จะได้ตรวจแล้ว แต่ตนได้ยินเสียงแล้วรู้สึกว่า นายเอกไม่ไหวแน่นอน พูดไม่เป็นคำแล้ว ตนไม่รู้จะติดต่อหาใคร เพราะว่าไม่มีญาติพี่น้อง ตนจึงได้ประสานไปยัง นิติบุคคล ให้ประสาน 1669 ให้หน่อย

ทางนิติบุคคลก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โทรไปหา 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือแต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่สามารถประเมินอาการของผู้ป่วยได้ ว่าอยู่ในระดับวิกฤตที่สามารถเอารถออกไปรับได้หรือไม่ จะต้องให้เจ้าตัวโทรมาเอง หรือให้ญาติสายตรงโทรมาแจ้ง เจ้าหน้าที่ถึงจะเชื่อ ในขณะนั้นทางนิติบุคคลก็ยังไม่กล้าเปิดห้อง เพราะกลัว ตนก็เลยพยายามโทรหา 1669 ที่หนองคาย เพื่อให้เขาประสานงานให้ แต่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าช่วยไม่ได้เนื่องจากว่าอยู่คนละเขต

ตนโทรหาประกันสังคม แจ้งข้อมูลทั้งหมด ทางเจ้าที่บอกว่าจะเป็นฝ่ายโทรไปหานายเอกเอง แต่ในช่วงเวลานั้นนายเอกไม่สามารถพูดได้แล้ว เพราะไม่มีแรง แต่เจ้าที่ก็ยังยืนยันจะให้ผู้ป่วยเป็นคนพูด ตนจึงได้โทรไปหา 1330 ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่า ไม่สามารถรับเรื่องได้ เขาจะรับได้ก็ต่อเมื่อกรณีดังกล่าวผู้ป่วยยืนยันว่าติดโควิดแล้ว ตนจึงอธิบายไปว่า นายเอกมีความเสี่ยงสูง แต่ว่ายังไม่รับการตรวจ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ตนพยายามติดต่อนายเอกตลอด ข้อความสุดท้ายที่นายเอกส่งมาคือ จะพยายามเข้มแข็ง

“จนกระทั่ง เวลา 10.11 น. ของเมื่อวาน ผมได้รับข้อความว่า ศูนย์เจ้าอาม ได้เข้าไปในห้องและพยายามปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่ทัน พี่เอกเสียชีวิตแล้ว ผมบอกกับ 1330 ว่า ถ้าผมไม่ติดว่า จะต้องรักษาโควิดอยู่ผมจะขับรถจากหนองคายไปกรุงเทพฯ เพื่อพาพี่เอกไปหาหมอ ถ้าพี่เอกได้ไปโรงพยาบาล พี่เขาคงไม่ตาย”

นายบิวกล่าว่วา เมื่อวานหลังจากนายเอกเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ เขาจะต้องติดต่อหาญาติก่อน ตนก็ใช้เวลาติดต่อหาญาติจนเจอ จากนั้นก็เผาศพแล้วเมื่อวานแล้ว

ที่มา ข่าวสด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image