| ผู้เขียน | Chanan |
|---|
ถอดรหัส ‘เชียร์ยูโร Aerosoft’ ที่ฮอตฮิต เปิดใจ ปอ ณัฐภูมิ ผู้อยู่เบื้องหลัง กับ สามช่า และพลพล
“เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ”
เรียกว่าเป็นท่อนจากเพลง ที่เป็นกระแสที่สุด ในช่วงนี้ก็ไม่ผิดนัก
ทันทีที่ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ “แอโร่ซอฟ” ทุ่มงบ 300 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์ บอลยูโร 2020 มาให้ประชาชนชาวไทย ได้ช่อง NBT สด ครบทุกคู่
โฆษณา “เชียร์ยูโร แอโร่ซอฟ” ก็เข้ามาในโสตประสาทคนไทย แทบจะทันทีที่บอลคู่เปิดสนาม เริ่มเตะ
ฮอตฮิต กระทั่งทั่วบ้านทั่วเมือง นำไปพูดถึงต่อ ค้นหาคอร์ดเพลงในกูเกิล ไปจนถึงเข้าไปรับชมโฆษณาในยูทูบไม่น้อย
แต่เบื้องหลังของโฆษณาดังชิ้นนี้ ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก่อนถ่ายทอดสู่สายตาคนไทย มติชนได้ขอเวลา ปอ ณัฐภูมิ รัฐชยากร กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท Newspective และ Executive Producer KIT MUSIC ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังกล่าว มาเล่าเรื่องการทำงานของโฆษณาฮิต
จุดเริ่มต้นของโฆษณาชิ้นนี้ ณัฐภูมิ เผยว่า ลูกค้าได้โทรเข้ามาตอน 2 ทุ่มกว่า ของวันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน ว่าต้องการโฆษณา เพื่อจะบอกว่า แอร์โรซอฟท์ ซื้อลิขสิทธิ์บอลยูโรมา ซึ่งตอนนั้นต้องรีบคิดคอนเซ็ปต์และไอเดียต่างๆ เสนอลูกค้าภายใน 10 นาที เมื่อลูกค้าได้ฟัง ก็ซื้อไอเดีย และลงมือทันที
“เมื่อจะทำโฆษณา เราก็ต้องหาแกนของโฆษณาแคมเปญนี้ ก็ไปดูสิ่งที่เขาทำ ว่าเขาตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาที ที่เอาฟุตบอลมาให้คนไทยดู และก็ไปดูว่า ฟุตบอลนี้ มีอะไรที่สะท้อนได้บ้าง ก็มีคำว่า “ทุ่ม” คือ ทุ่มเท ทุ่มบอล จึงเป็น แอร์โร่ซอฟท์ ทุ่มเท เพื่อคนไทย มาเป็นคีย์เวิร์ดคำแรก เขาก็เคาะเลย”
นั่นคือหน้าที่ของนักโฆษณา ที่จะต้องพาแบรนด์ไปอยู่ในใจให้เร็วที่สุด
ส่วนทำนองเพลงสามช่า ที่มาอยู่ในโฆษณานี้นั้น ณัฐภูมิ บอกว่า มาจากความคิดที่ว่า เราต้องนำแบรนด์ไปอยู่ในใจคน จึงคิดว่าต้องทำเพลง ก่อนเสนอ เพลงสามช่า เพราะแบรนด์เป็นรองเท้ามหาชน อยู่มา 39 ปี อยู่คู่คนไทยมานาน เพียงแต่ไม่ค่อยโฆษณา เน้นขายส่ง เพลงสามช่าก็เป็นมหาชน ลูกค้าก็เคาะทันที จึงได้เริ่มกระบวนการทำเพลง
แต่พอได้เริ่มเข้าสู่กระบวนการทำงาน ก็เรียกว่าแข่งขันกับเวลาสุดๆ แต่รับว่าไม่ได้อยู่ในภาวะกดดัน เพราะงานชิ้นนี้ ไม่ได้คิดเรื่องเงิน แต่คิดว่าเขาทำเพื่อคนไทย จึงได้ขจัดอุปสรรคเรื่องเวลาออกไป
ณัฐภูมิ เล่าว่า เมื่อบรีฟแล้ว ก็ได้ติดต่อไปที่นักแต่งเพลง “ต้น-ไตรสิทธิ์ มีสมศัพย์” ศิลปินและนักแต่งเพลง ที่ตื่นมารับบรีฟตอนตี 2 ก่อนจะหายไป ชั่วโมงครึ่ง ส่งเพลงมาตอนตี 3 ครึ่ง นำมาแก้เล็กน้อย ในท่อน “เชียร์ยูโร แอโรซอฟท์” จากนั้นให้ แบงค์-จุฑาคุณ รังสรรค์ Music Producer รับไปทำต่อ เมื่อทำเพลงเป็นเดโม่ส่งให้ลูกค้าต่อตอน 8 โมงครึ่ง ลูกค้าก็เขียนเนื้อกลับมาเล็กน้อย และเข้าสู่กระบวนการอื่น
“ลูกค้าขีดแก้ 3 คำ เป็นลายมือ แฟกซ์มาให้ น่าจะมาจากทางคุณโกมล โดยแก้คำว่า “ขอเป็นกำลังใจ”, “ถูกต้องตามลิขสิทธิ” และ “แอโร่ซอฟท์ รองเท้าแตะใส่นุ่มสบาย” และเราก็นำมาปรับเล็กน้อย”
เมื่อเดโม่ ผ่านแล้ว ขั้นต่อไปคือนักร้อง ที่ได้ “พลพล พลกองเส็ง” มาถ่ายทอดบทเพลงนี้ ณัฐภูมิ บอกเหตุผลว่า ที่เลือกพลพล ก็เพราะเป็นแบรนด์มหาชน ยูโร ก็เป็นมหาชน จึงได้คิดถึง พลพล คนเดียว เมื่อติดต่อไปตอนแรก แกยังไม่ตื่น กระทั่ง 11 โมงกว่า ก็ติดต่อกลับ เขาก็เข้าใจ น่ารัก ว่าทำให้คนไทย ก็มาอัดเสียงให้ตอนบ่ายกว่าๆ
“ตอนนั้นเราก็ทำภาพไปด้วย คิดช็อตภาพ ส่งให้ทีมงานหาฟุตเทจรอ ตัดๆ ไว้รอ บ่ายโมงครึ่ง บ่ายสอง ทุกอย่างก็มาชนกัน ก็ส่งไปให้เซนเซอร์ตอนบ่าย 3 แล้วจากนั้นก็ได้ออนแอร์”
กว่าจะสำเร็จเป็นเพลงเพียงชั่วข้ามคืน เขายกเครดิตให้ 3 ประสาน ที่ทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมาได้
เมื่อได้ออกอากาศ ก็ได้เห็นฟีดแบ็กต่างๆ ที่เข้ามาบ้าง ทั้งดีและไม่ดี อย่างภาพอาจจะดูรีบๆ แต่ก็ขอบคุณทุกคน ถือว่าบรรลุหน้าที่ของนักโฆษณาแล้ว ไม่ได้หลงระเริงอะไร ได้แต่ขอบคุณทุกคน
“ผมไม่มีเฟซบุ๊ก ก็มีคนส่งนู่นนี่มาให้ดู ลูกค้าก็ดู ก็ขอบคุณ เพื่อนๆ ก็ส่งมาให้ดู ต้องให้เครดิตคนทำเพลง เป็น 3 ประสานที่ลงตัว เราก็ดูทุกคอมเมนต์ ก็ขอบคุณ”
ส่วนเหตุผลที่เขามองว่าทำให้ เพลงนี้ ดังติดหูนั้น เขามองว่า เป็นเพราะจังหวะ เวลา และสถานการณ์ที่ประจวบเหมาะ โดยว่า โฆษณาปัจจุบัน เน้นสตอรี่มากกว่า เพลงนี้ปัง เพราะสตอรี่ สถานการณ์ประจวบเหมาะ ไม่ได้แปลว่าทำโทนนี้แล้วจะสำเร็จ หากเพลงไปออกก่อนหน้าก็อาจจะไม่ปัง เพราะคนไทยไม่ได้ดูยูโร แต่เราลากสตอรี่ว่า เชียร์ยูโร่ ต้องแอโร่ซอฟท์ มันลากกันมา รวมทุกอย่าง หนุนให้เพลงมันฮิต นับเป็น “ความบังเอิญที่ลงตัว”
ได้รับความสนใจอย่างมาก จากเพลงนี้ ณัฐภูมิ บอกว่า เรียกว่าเป็นจังหวะ ที่มาช่วยได้เยอะ โดยเล่าว่า ค่ายเพลงที่เปิดมานี้ เปิดมาก็เจอโควิดเลย แต่ว่าเราก็คิดทำเพลงโฆษณาอยู่ หากโฆษณานี้ทำให้คนเห็นและสนใจก็ยินดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ ทุ่มกว่า 300 ล้านบาท ซื้อลิขสิทธิ์ยูโร 2020 ให้คนไทยดูฟรี ครบ 51 แมตช์
- รู้จัก ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ เบื้องหลังคืนความสุข ให้คนไทยดูยูโร 2020
