ผู้ว่าฯสมุทรสาคร อาลัย ‘หมอหนึ่ง’ จนท.ด่านหน้า ติดโควิดเสียชีวิต แม้ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม

ผู้ว่าฯสมุทรสาคร อาลัย ‘หมอหนึ่ง’ จนท.ด่านหน้า ติดโควิดเสียชีวิต แม้ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม

เมื่อวันที่ 12 กรฎกาคม นายวีระศักดิ์ วิติตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร โพสต์เฟซบุ๊ก อาลัย หมอหนึ่ง พิเชษฐ์ สหกิจ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล สต.สวนหลวง โดยว่า

“ใกล้แค่เอื้อม
บ่ายสามถึงวัดอ่างทอง กระทุ่มแบน ร่วมพิธีฌาปนกิจ​ศพ​ จนท.รพ.สต.สวนหลวง พิเชษฐ์​ สหกิจ​ หรือ หมอหนึ่ง ที่เสียชีวิตจากโควิดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ผช.สสอ.กระทุ่มแบนติดโควิด ทำให้ สสอ.กลายเป็นกลุ่มเสี่ยง หากผลออกมาว่า สสอ.ติดด้วย นายอำเภอ ปลัดจังหวัด รอง ผวจ. หรือแม้แต่ ผวจ.คงไม่รอด สถานการณ์ที่สมุทรสาครตึงเครียดสุดขีดแต่ตึงเครียดแค่ไหน เรายังคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
เรากำลังเร่งเรื่อง รพ.สนาม และ Community Isolation หรือ ศูนย์พักคอยคนสาครไม่ทอดทิ้งกันอย่างเข้มข้น
เดินทางกลับ พร้อมอธิษฐานให้ดวงวิญญาณ ”หนึ่ง” ไปสู่สุขคติในสัมปรายภพ พวกเราที่ยังอยู่ พร้อมที่จะเป็นด่านหน้า ที่บางคนเคยปรามาสว่า “เห็นแก่ตัว” ทั้งที่เจ็บ และตาย อยู่ใกล้แค่เอื้อม อนาคตสุดจะคาดเดา”

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กของ รติรัตน์ รถทอง ได้โพสต์ เล่าเรื่องราวของหมอหนึ่ง ไว้ว่า

Advertisement

“ข้าว…ทราบข่าวนี้สักสองวันแล้ว
แต่ยังไม่สามารถเขียนออกมาเป็นข่าวสารเพื่อสื่อให้คนเข้าใจสถานการณ์ได้ว่าสมุทรสาครมีอะไรที่มากกว่าความเงียบงัน…ของคนสมุทรสาคร
หมอหนึ่ง นายพิเชษฐ์ สหกิจ หมออนามัย รพสต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน

จ.สมุทรสาคร เวลาปะทะคนไข้แรกๆ จะเป็นหมอโรงพยาบาลชุมชนตำบลเหล่านี้ พวกเขาและเธอต่างต้องรับมือคนเจ็บคนป่วยที่เข้ามารักษาใน รพ.ด่านแรกที่เจอโควิด…ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเข้าใจผิดว่าเรามีด่านแรกที่เข้มแข็ง มี อสม. มีทุกอย่างดูแลโรคระบาดได้ในครั้งแรกๆ แต่ลืมไปว่า หมอหรือเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็พลาดและหมดแรงได้ พอมาระลอก 3 มาเต็ม ๆ เราถึงมีข่าวว่าหมอ พยาบาล จนท.ติดกันเยอะ…ทุกคนกล้ำกลืน…แบบให้งานมาแต่ไม่ได้ติดอาวุธป้องกันให้พวกเขาทัพหน้าของไทย

หมอหนุ่มๆ หมอสาว ๆ ด่านหน้าเหล่านี้…หลายคนอายุน้อย โสดเป็นอนาคตของประเทศ อย่างหมอหนึ่ง ที่เป็นความหวังของครอบครัว. เป็นความภูมิใจของคนรอบข้างในสังคมได้พึ่งพา ดูแลคนไข้มากมาย เป็นเพื่อนเป็นน้องของคนที่รักเขา เขาก็รักคนเหล่านั้น

Advertisement

ขนาดน้องได้รับการฉีดซิโนแวดแล้วสองเข็มด้วยซ้ำแต่ป้องกันอะไรได้บ้างมั้ย ไม่เลย บางคนบอกข้าวว่าเหมือนฉีดน้ำเปล่ากันตาย. ที่ข้าวโมโหคือเพราะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเป็นหมอยังออกมาเชียร์ หลายคนบอกว่าดีที่สุดของคนไทยสมควรได้รับการฉีด…ลองมาเป็นพวกเขาบ้างซิแล้วตายบ้างซิ

เสียดายอนาคตหมอหนึ่งในอนาคตเราอาจมี ผอ.รพ.สต.ที่ดีๆ หรือเปล่า?…สังคมไทยเรากว่าจะสร้างคนดีคนเก่งมาทำงานยากเย็นขนาดไหนใครรู้
ตอนแรกข้าวว่าจะไม่เขียนแบบนี้…เพราะข้าวไม่รู้จักน้อง แต่เห็นน้องจบมหาลัยเดียวกันก็อดไม่ได้…

เพราะยังไงคงไม่ใช่รายเดียวที่ถูกลืม ขนาดเผาศพญาติพ่อแม่พี่น้องยังไปเปิดดูหน้าก่อนตายไม่ได้เลยจะมีอีกสักกี่คนคะที่ต้องสูญเสียอีก จะตายคาบ้านอีกกี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นคน…ตอนปีที่แล้วข้าวยังคิดว่า ประเทศอื่นๆ อย่างอเมริกา อังกฤษ ยุโรปเขาโชคร้ายนะศพกองเป็นหมื่นฝั่งรวมกัน น่าสงสารนะแต่เปล่าเลย เราคนไทยนี่ต่างหากที่ลำบากลำบนมากว่าเขามากมายหลายร้อยเท่าเพราะว่าผู้หลัก

ผู้ใหญ่เราอยู่บนปราสาทหอคอยงาช้าง

สองวันก่อนอ่านข่าวเป็ด เชิญยิ้มว่าพ่อแม่เขาตายหมดทั้งคู่ แม่ตายมิถุนายน พ่อตายต้นกรกฏาคมนี้เองเป็ดร้องไห้ยังกับเด็กๆ ใครจะดูแลพวกเราประชาชนคนไทยที่เดือดร้อนและคาดว่าจะเจ็บกันไปอีกนาน…เจ็บและไม่จบ อาจรอวัคซีนกว่าจะได้ครบเมื่อไหร่ เราอยากเดินภายใต้ดวงอาทิตย์แบบไม่ใส่แมสบ้าง. นี่สองปีแล้ว เป็นปี ๆ แล้วที่ออกไปกินข้าวนอกบ้านไม่ได้..เหนื่อยนะช่วยตื่นจากฝันที่วาดไว้บ้าง มองสถานะความเป็นจริงของเราบ้าง?

พี่ครูข้าวในสถานะคนสมุทรสาครเหมือนกันและเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้เราจะอยู่คนละคณะคนวงการการทำงานพี่ข้าวที่น่าจะแก่กว่ามาก ๆ คนนี้ก็ขอให้หมอหนึ่งสู่ภพภูมิที่ดีและสุขคติเถิดน้อง…

ปล.เคตดิตภาพจากเฟสบุ๊กของหมอหนึ่ง ขอบคุณที่อ่านค่ะ ร่วมอาลัยกันนะคะ…ข้าวเป็นนักเขียนอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ความน่ากลัวของโควิด 19. ดูแลตัวเองด้วยทุกคน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image