‘สมปอง’ รับผิดขอโทษติ๋ม เคลียร์ธุรกิจสีเทา วอนเลิกเอาจีวรคลุมตัว สึกแล้วตั้งใจเรียนรู้ชีวิต
เรียกว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาวิ่งผลัดที่รับไม้ต่อ “ประเด็นดราม่า” มาอย่างต่อเนื่อง สำหรับอดีต “พระมหาสมปอง” ที่ลาสิกขาออกมาเรียนรู้การใช้ชีวิตนอกจีวร ที่มาพร้อมกับชื่อเสียงมากมาย ทว่าล่าสุดก็เกิดประเด็น “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” ออกมาเผยถึงพฤติกรรมของทิดสมปองที่จู่ๆ ก็ขนของออกจากบ้านซึ่งเธอเมตตาให้อยู่อาศัยออกไป โดยไม่บอกกล่าวสักคำ ทั้งยังมีร่างสัญญางานที่ยังติดค้างกันอยู่ด้วย
ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หนุ่ม – กรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการโหนกระแส ได้เชิญ ทิดสมปอง หรือ นายสมปอง นครไธสง มาร่วมเปิดใจถึงประเด็นดราม่าในรายการ ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
เริ่มต้นที่ นายสมปอง กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ถ้าพี่ติ๋มดูอยู่ ขอโทษก่อนเลย (พนมมือไหว้) สิ่งที่เกิดขึ้นคือเหมือนน้องที่น้อยใจพี่สาว เหมือนลูกน้อยใจแม่ พี่ติ๋มมักจะสอนผมเสมอทั้งเรื่องคบเพื่อน การทำธุรกิจ และอื่นๆ ซึ่งจริงๆ พี่เขาไม่ต้องสอนขนาดนั้นก็ได้ แต่ก็เข้าใจว่าเขาเป็นห่วงผม และเขาก็มีกฏกติกา ข้อห้ามและหลายๆ อย่างที่เป็นความหวังดี ทว่าผมก็เป็นที่รักเพื่อนจึงมีความน้อยใจเกิดขึ้น
ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่บอกพี่ติ๋มไปตรงๆ เกี่ยวกับการย้ายออกจากบ้านนั้น นายสมปอง กล่าวว่า ตรงนี้ผมผิดกาลเทศะ ผิดมารยาทของคนไทย ของเด็กที่มีต่อผู้ใหญ่ การย้ายออกของผมไม่ได้ปรึกษาใครเลย ตอนที่ให้ทีมงานไปเก็บของก็ยังระแวงว่าจะเจอใครไหม จุดนี้คือผมผิดเลย ที่ไม่ได้บอกเหมือนเราไม่กล้าพูด เราเกรงใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะใช้คำว่าคิดน้อยหรือสิ้นคิดเลยก็ได้
พิธีกรรายการ หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า จริงหรือไม่ที่รับเงินจากพี่ติ๋มไปแล้ว 1 ล้านบาท นายสมปอง ตอบว่า เป็นเรื่องที่ 2 ที่ผมผิดอีกแล้ว ผมรับเงินเขามาจริงๆ 1 ล้านบาท ล่วงหน้า 4 เดือน พี่ติ๋มเขาก็ใจๆ กับผมให้เงินมาก่อน และก็มีร่างสัญญา ซึ่งเงินก้อนนี้ ตอนนี้ก็กำลังคุยกับลูกชายของพี่ติ๋มว่าจะคืน ต้องคืน เพราะผมไม่ได้ทำงานให้เขา กำลังคุยกันอยู่ว่าจะคืนแบบไหน คืนยังไง
ในส่วนที่ว่าอยากเคลียร์เรื่องทั้งหมดกับพี่ติ๋มไหม นายสมปองตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า อยากเคลียร์ครับ ตอนผมเป็นพระ พี่ติ๋มก็นั่งข้างล่าง แกก็เคารพผม พอสึกแล้วผมก็นั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างล่างเลยทีเดียว แต่ก่อนเราเป็นพระคนก็กราบไหว้เรา แต่พอสึกแล้วเราก็ไหว้คนอื่นก่อนได้
กับประเด็น “ธุรกิจสีเทา” นายสมปอง กล่าวว่า ผมไม่มี 100 เปอร์เซ็น ไม่มีเลย ไม่ชอบ เรียนตามตรงผมสึกมา 40 วัน ผมจะทำอะไรได้ ทุกวันผมทำงานแล้วก็กลับบ้านพี่ติ๋ม ส่วนพี่บุ๋มก็เป็นพี่สาวคนหนึ่ง เคยไปร่วมงานศพของพี่สาวผม ผมก็นับถือพี่บุ๋มเป็นพี่สาวผมมาตั้งแต่นั้น อีกอย่างผมเป็นพระมา 30 ปี รวมบวชเณรด้วย ผมไม่ได้ทำธุรกิจสีเทาแน่นอนล้านเปอร์เซ็น และอยากให้บอกมาเลยว่าสีเทาที่ว่าคืออะไร ชัดเจนกับผมเลย ขายหวยใต้ดิน บ่อนการพนัน หรือยาเสพติด ผมไม่ทำล้านเปอร์เซ็น ถ้าผมผิดพลาดอะไรบอกผมมาเลย ถ้าคิดว่าไม่ดีบอกผมมาเลย ไม่มีโกรธ ขอให้ชัดเจนกับผม
ส่วน เรื่องดื่มไวน์ นายสมปองเล่าว่า สึกวันแรกก็ดิ่งไปบ้านพี่ติ๋ม มีแก้วไวน์วาง พี่ติ๋มก็บอก เอ้า ลองใช้ชีวิต ก็เป็นการชิมไวน์ รู้สึกเหมือนน้ำผลไม้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากบอกทุกคนคือเลิกเอาจีวรมาคลุมผมสักที ผมสึกมากแล้ว หลายคนยังคิดว่าสวดมนต์ทำวัตรเช้าเย็นสิ แต่เราลาสิกขามาแล้ว มาศึกษาการใช้ชีวิต สำหรับผมไวน์ก็คือดื่มได้ ซึ่งพี่ติ๋มเขาก็บอกว่าแต่อย่าไปดื่มข้างนอกนะ ผมก็เลยพูดทีเล่นทีจริงว่า งั้นผมก็ไม่ไปกินข้างนอก แล้วปรากฏว่าอีกวันก็มีตู้ไวน์มาในบ้าน และหากสังเกตจะพบว่าผมก็แช่ไวน์แล้วก็น้ำเปล่าด้วย ในตอนที่ย้ายออกไป เหลือครึ่งขวด ผมก็เอาไป ก็เหมือนพี่สาวให้เราแล้ว ทิ้งไว้ ใครจะดื่มต่อจากเรา และยืนยันว่าไม่ได้ติดไวน์
สุดท้าย สมปอง กล่าวถึง ประเด็นย้ายของไปหมดทิ้งไว้แต่รูปพี่ติ๋ม ว่า เป็นสัญชาตญาณย้ายของ รูปนั้นศิลปินคนหนึ่งวาดให้ วาดให้หลายคนเลย ที่วางคู่กันเพราะพี่น้อย(ญาติ) เป็นคนจัดให้ ไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน ส่วนเรื่องเสื้อผ้าก็เป็นความรักความเมตตาของพี่ติ๋ม เขาก็ให้เลขาเขาพาผมไปดู ผมก็ไม่รู้ว่าต้องซื้อหรือเขาให้ เขาก็บอกว่ามีส่วนหนึ่งผู้บริหารอยากให้ ผมก็เลยไลฟ์ให้เลยเป็นการตอบแทนโดยที่เขาไม่ได้บอก ซึ่งผมไม่รู้ราคาหรอก เพราะถ้าให้ผมซื้อเองผมซื้อตลาดนัด ตัวละร้อย
ทั้งนี้กับการมีคลิปพี่ติ๋มถูกเนื้อต้องตัว คนมองว่าคบกันฉันชู้สาวหรือเปล่า สมปอง ชี้แจงว่า ไม่มีเลย อย่าไปมองอย่างนั้น พี่ติ๋มเป็นพี่สาวจริงๆ เอ็นดูผม การจะมาจับพุงจับอะไร เหมือนที่พี่ติ๋มพูด บางทีผมเหมือนลูกเลย การจับจับจะกอดเหมือนกอดลูกเลย พี่ติ๋มไม่ได้คิดอะไรกับผมแน่นอน ถ้าใครรักผมอย่าว่าพี่ติ๋มเลย พี่ติ๋มไม่ได้คิอะไรกับผมเลย มั่นใจ เรื่องนี้ตัดไปได้เลยไม่มีครับ ส่วนหนึ่งที่ผมมารายการวันนี้ อยากจะมาเคลียร์เรื่องนี้ ผมทนไม่ได้เลย
และหลังจากนี้ถ้าหากพี่ติ๋มให้โอกาส ผมเป็นเด็กพร้อมกราบไปขอขมา ทั้งเรื่องออกมาไม่ลา และเรื่องงานที่ทำให้วุ่นวาย
