กับศูนย์ก็ไม่รอด! หนุ่มดาวน์รถ แต่ไม่ได้รถ เหตุเซลส์เชิดเงินหนี ปัดตามคืนเอาเอง

หนุ่มช้ำวอนช่วยเหลือ หลังดาวน์รถทิพย์ สูญกว่า 1 แสน สุดทนผ่าน 1 เดือนเรื่องไม่คืบ โชว์รูมปัดให้ไปตามเงินคืนกับเซลส์เอง ล่าสุดเซลส์อ้างไม่ได้หนี แต่ไม่ติดต่อเพราะกลัวไม่มีสมาธิหาเงินคืน

จากกรณี นายณัฐปภัสร์ หรือมาย อายุ 27 ปี ได้โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งเตือนภัย “ออกรถกับศูนย์ให้บริการยังต้องระวังการโกงมีทุกรูปแบบจริงๆ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า

มายได้ทำการจองรถยนต์ยี่ห้อดัง ยอดขายติดอันดับของประเทศ กับพนักงานขายของบริษัทสาขาหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ด้วยความที่ไว้วางใจเเละชื่นชอบในรถยนต์ยี่ห้อนั้น และศูนย์บริการค่อนข้างใหญ่ มีชื่อเสียง และมีเพื่อนแนะนำมายว่าศูนย์นี้ดี ดูแลดี ของแถมให้เยอะ พนักงานขายเทกแคร์ดี แต่ใครจะรู้ว่ามีกลโกงซ่อนอยู่

เริ่มเลยมายสนใจรถยนต์และได้ติดต่อกับพนักงานขาย จากนั้นพนักงานขายแสนดีได้นำรถมาให้ทดลองขับและถูกใจก็เลยทำการจองในวันนั้น (วันที่เท่าไร) ในราคา 10,000 โดยพนักงานได้แจ้งให้โอนเงินผ่านพนักงานขายได้เลย ซึ่งมายไม่รู้ว่าการขายของพนักงานคนนี้เป็นอย่างไร เพราะสอบถามเพื่อนที่แนะนำมา และได้รถจากการขายของพนักงานคนนี้มาแล้ว และมีการโอนเงินเข้าบัญชีแบบนี้เช่นกัน

จากนั้นก็ได้ตกลง ราคาดาวน์ ของแถมและของตกแต่งรถเรียบร้อย รวมจองรถและราคาดาวน์ทั้งหมดที่มายโอนไป 109,000 บาท หลังจากนั้นก็ทำเรื่องยื่นเอกสารขอสินเชื่อไม่นานสินเชื่อก็ผ่าน ทางบริษัทศูนย์บริการและพนักงานขายได้แจ้งนัดหมายให้มายไปรับรถในวันที่ 24 กรกฎาคม 2565

Advertisement

มีการอัพเดตเรื่องตลอดเวลาว่าตกแต่งรถถึงไหน ถ่ายรูปรถส่งให้ดูตลอด จนสุดท้ายรถแต่งเสร็จก็ส่งให้ดูอีก เมื่อถึงกำหนดวันรับรถ มายและครอบครัวได้เตรียมพวงมาลัยดอกไม้และเดินทางไปรับรถที่ศูนย์บริการ

ไปถึงปรากฏว่า ทางบริษัทแจ้งว่าไม่สามารถปล่อยรถให้มายได้เนื่องจากพนักงานขาย (เซลส์) ไม่ได้นำเงินดาวน์ที่มายโอนให้เพื่อชำระราคารถยนต์ให้แก่ศูนย์บริการ ซึ่งมายไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น จนมารู้ข้อเท็จจริงว่าพนักงานขายได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว

หลังจากนั้นมายได้คุยกับเจ้าของโชว์รูมว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ มายได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานขายคนนี้ แต่ทางโชว์รูมไม่มีทางออกเรื่องนี้ให้กับมายเลย ให้มายดำเนินการเองทั้งหมด ปัดความรับผิดชอบ ไม่แจ้งความเอาผิดพนักงานของตัวเอง ทั้งๆ ที่พนักงานคนนี้ (มาทราบภายหลัง) ได้ทำการกระทำแบบนี้กับเคสก่อนหน้ากับลูกค้ารายอื่นมาแล้วหลายราย

Advertisement

 

แต่เคสก่อนนี้บริษัทรับผิดชอบให้รถลูกค้า แต่กับเคสของมาย บริษัทปัดความรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งไม่แจ้งความกับพนักงานคนนั้นด้วย ไม่มีทางออกอะไรให้เลย โยนภาระให้กับมายซึ่งเป็นลูกค้า และถามมายว่าถ้ามายอยากได้รถให้มายวางเงินเพิ่มอีกประมาณ 70,000 บาท คนละครึ่งกับบริษัทเพื่อเอารถออกมา มายได้รับความเสียหายและไม่เป็นธรรม อยากออกมาโพสต์เพื่อเตือนภัยทุกคน

ทุกคนอาจจะมองว่าทำไม? มายถึงไม่โอนเงินให้บริษัทไปโง่โอนให้เซลส์ทำไม

มายตอบเลยว่า ที่มายโอนมายทำตามขั้นตอนแบบที่เพื่อนมายที่เคยออกรถที่นี่ทำแล้วเพื่อนมายได้รับรถปกติ มายไม่รู้ว่าการขายของบริษัทหรือพนักงานนี้มีการขายรถอย่างไร ซึ่งเพื่อนมายที่ออกรถกับพนักงานคนนี้ก็โอนเงินแบบนี้ก็ได้รถออกมาครับ แต่ที่เจ็บช้ำกว่านั้นคือบริษัทตัวแทนหรือบริษัทสำนักงานใหญ่ต่างไม่รับผิดชอบกับเคสของมายนี้เลย ทั้งที่พนักงานขายหรือเซลส์คนนี้ก็เคยกระทำแบบนี้กับลูกค้ามาก่อนหลายรายแล้ว แต่ก็ไม่เคยไล่ออก จนกระทั่งมาเกิดเคสนี้กับมายอีก #โยนภาระให้ลูกค้า #ใบจองมีแล้ว #ไฟแนนซ์ผ่านแล้ว #วางเงินดาวน์แล้ววว #เซลส์ไหนทิพย์ไม่รู้แต่ของหนูไม่ทิพย์ #เซลส์แท้ลอยหน้าลอยตา #ผ่าน”

เซลส์ติดต่อกลับ ยอมรับทำจริง พร้อมแจงไม่หนี แต่ไม่ติดต่อเพราะกลัวไม่มีสมาธิหาเงินคืน โชว์รูมเผยเจ้าตัวเคยก่อคดีมาแล้วหลายครั้ง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ มาย ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังที่โพสต์ข้อความช่วงเช้าที่ผ่านมา เซลส์ขายรถซึ่งเป็นผู้หญิงชื่ออุ้ม อายุประมาณ 42 ปี ได้ติดต่อมาหาผ่านทางไลน์ของตน ระบุว่า

“เรื่องพี่เขารู้กันไปหมดและไม่โกรธ พยายามไม่เครียดเดี๋ยวไม่มีสมาธิหาเงินคืน ถ้า เครียดยิ่งหาทางออกไม่เจอเลยคิดว่าไม่รับรู้อะไรเลยและไม่หนีค่ะ ขอเพียงแต่เว้นทางให้พี่ได้มีทางหาเงินบ้าง พี่ยอมรับในสิ่งที่ทำเพียงแต่ตอนนี้ก็พยายามหาเงินไปคืนเท่านั้น” เซลส์กล่าว

ซึ่งสิ่งที่เซลส์พยายามติดต่อเป็นการยื้อเวลา เหตุการณ์นี้ผ่านมากว่า 1 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ โชว์รูมสาขา อ.โนนสูง อ้าง เซลส์คนนี้เคยสร้างปัญหามาแล้วในขณะทำงานอยู่ที่โชว์รูมรถยี่ห้ออื่น ย้ายมาที่นี่ก็ยังไม่เข็ดหลาบ ก่อเหตุซ้ำอีก และของมายเป็นเคสที่สอง ซึ่งโชว์รูมให้ไปติดตามทวงหนี้กับเซลส์กันเอง โดยได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ข้อกล่าวหาถูกยักยอกทรัพย์ อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน

มายกล่าวว่า วันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พาพ่อแม่เดินทางไปรับรถตามฤกษ์งามยามดีเวลา 09.09 น. ไปถึงโชว์รูมเห็นรถที่ต้องการได้ผ่านการตกแต่งจอดไว้ แต่เขาไม่สามารถส่งมอบให้ได้ ถือเป็นปัญหาทุกข์ใจมากที่เงินเก็บไว้กว่า 1 แสนบาท ถูกเล่นละครตบตาหลอกเอาไปใช้ จากการสืบพบเป็นการนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยแล้วเกิดหมุนไม่ทัน เรื่องจึงโป๊ะแตก

“ขอเตือนให้ประชาชนทุกคนเมื่อทำธุรกรรมใดๆ ขอให้ติดต่อโดยตรงกับบริษัท รวมทั้งตรวจสอบประวัติของพนักงานขายเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง สำหรับกรณีของตนเกิดจากเห็นตัวอย่างเพื่อนได้ซื้อรถในรูปแบบเดียวกัน แต่ไม่เกิดปัญหาขัดข้องเหมือนกับตน เนื่องจากตนไม่เคยทราบวิธีการขั้นตอนการขายมาก่อน ทราบเพียงว่าเซลส์ขายรถเป็นตัวแทนของบริษัทสามารถดำเนินการให้ลูกค้าได้ รถคันดังกล่าวเป็นรถคันแรกในชีวิต ทำงานเก็บเงินมานานกว่า 3-4 ปี เพื่อหวังจะมียานพาหนะมาใช้ประกอบอาชีพแต่กลับสูญเปล่าไป ถือเป็นประสบการณ์ครั้งใหญ่ในชีวิต

ขอให้ทางบริษัทรับผิดชอบความเสียหาย เนื่องจากที่ผ่านมาการกระทำของบริษัทไม่มีท่าทีที่ชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือ รับผิดชอบ พยายามบ่ายเบี่ยงให้ตนรับผิดชอบในความผิดพลาดและดำเนินการเองทุกขั้นตอน โดยเฉพาะเซลส์ขายรถคนนี้เคยมีพฤติกรรมในลักษณะแบบเดียวกันหลายครั้ง จึงสงสัยว่าทำไมบริษัทถึงปล่อยให้เซลส์ขายรถคนนี้เป็นพนักงานอยู่ ล่าสุดได้รับทราบข่าวว่าหลังจากเกิดเรื่องที่ตนเดินทางไปรับรถเพียง 2 วัน เซลส์ขายรถคนดังกล่าวได้ยื่นเรื่องลาออกจากบริษัทไปแล้ว”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามประสานติดต่อผู้บริหารโชว์รูมแต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image