สัตวแพทย์เผย เจ้าของสุนัขป้อนยาหวังเงินประกันแอบแก้ใบชันสูตรศพ แถมหมออีกรพ.ก็โดนเช่นกัน (คลิป)

เจ้าของป้อนยาฆ่าสุนัขตัวเองเรียกเงินค่าประกัน รพ.สัตว์โคราช ผ่าพิสูจน์พบกินยาเกินขนาด ร้านแฉซื้อสุนัขราคา 6,500 บาท แต่ให้เขียนบิล 50,000 บาท พบ รพ.สัตว์อีกแห่งโดนด้วย

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Jakkarin Ringngoen ได้นำเรื่องราวไปโพสต์ไว้ในโลกโซเชียลเกี่ยวกับเจ้าของสุนัขรายหนึ่งได้ทำการจ้างรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง เพื่อนำสุนัขพันธุ์ปอมเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา แต่สุนัขตัวดังกล่าวเกิดตายระหว่างทาง ก่อนที่เจ้าของสุนัขจะเรียกร้องค่าประกันกับบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง และทางโรงพยาบาลสัตว์ได้ผ่าพิสูจน์ซากสุนัขกลับพบว่ามียาอยู่ภายในกระเพาะเป็นจำนวนมาก ซึ่งสงสัยว่าสุนัขจะถูกวางยาโดยเจ้าของสุนัขเพื่อเรียกค่าประกันกับบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง แพทย์ในโรงพยาบาลสัตว์ที่ผ่าพิสูจน์ซากสุนัขจึงได้นำเรื่องราวโพสต์ลงในโลกโซเชียล จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนั้น

ล่าสุด เช้าวันที่ 8 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสาย 304 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่เกิดเหตุ พบกับสัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถ สุตธรรม เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์ฯ ซึ่งกำลังรักษาสุนัขให้กับลูกค้าอยู่หลายราย ก่อนที่จะนำถุงใส่เม็ดยาจำนวนมากกว่า 10 เม็ด ที่พบในกระเพาะสุนัขตัวดังกล่าวมาให้ดู พร้อมกับนำซากสุนัขพันธุ์ปอมที่แช่แข็งไว้มาตรวจสอบสภาพอีกครั้ง โดยสัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาได้มีลูกค้ารายหนึ่งโทรศัพท์มานัดว่าจะพาสุนัขมารักษา หลังจากนั้นประมาณ 30 นาที ลูกค้าก็มาถึงโรงพยาบาลสัตว์ฯ เมื่อลงมาจากรถก็หิ้วกระเป๋าที่มีซากสุนัขที่ตายแล้วมาให้ตรวจดู ตนจึงแจ้งให้เจ้าของทราบว่าสุนัขตายมาแล้ว

Advertisement

ก่อนที่จะเห็นว่าเจ้าของสุนัขไปพูดคุยกับคนขับรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยงให้รับผิดชอบต่อการสูญเสียสุนัขครั้งนี้ ซึ่งคนขับรถก็ยืนยันว่า ก่อนหน้านั้นเพียงครึ่งชั่วโมงก็ยังเห็นว่าสุนัขแข็งแรงดี ลงไปวิ่งเล่นที่ปั๊มน้ำมันอยู่เลย และตัวเขาก็ไม่ได้แตะต้องตัวสุนัข จึงแปลกใจว่าเหตุใดสุนัขถึงตายได้เร็วขนาดนี้ ส่วนที่จะให้ตนหาสาเหตุการตายของสุนัขนั้นก็ทำไม่ได้ เพราะสุนัขตายก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลสัตว์แล้ว จึงแจ้งเจ้าของว่าไม่รู้สาเหตุ รู้แต่เพียงว่าตัวสุนัขสะอาด ไม่มีรอยปัสสาวะหรือรอยอุจจาระอะไรเลย จึงสันนิษฐานแค่ว่าสุนัขอาจจะเกิดอาการช็อกก็ได้ แต่คนขับรถขนส่งสัตว์ยังไม่พอใจคำตอบ จึงแจ้งให้ตนเองทำการผ่าซากสุนัขตรวจสอบดู เมื่อผ่าดูจึงปรากฏเห็นเม็ดยาจำนวนมากอยู่ในกระเพาะของสุนัข ตามคลิปที่โพสต์ลงในโซเชียล พร้อมกันนั้นก็เกิดความสงสัย เพราะตอนเจ้าของนำสุนัขมาตนก็เห็นเม็ดยาชนิดเดียวกันตกอยู่ในกระเป๋า ซึ่งเจ้าของสุนัขบอกว่าเป็นยาของตัวเอง ก่อนที่จะนำไปทิ้งลงถังขยะ จึงได้ไปคุ้ยดูในถังขยะ พบว่าเป็นยาเม็ดสีเหลือง ซึ่งเป็นยาลดความดันของคน

ดังนั้น ตนเองจึงได้สอบถามว่าใครป้อนยาให้สุนัข ซึ่งคนขับรถก็บอกว่าเห็นเจ้าของป้อนยาให้ และทางเจ้าของสุนัขก็โทรศัพท์มาบอกเองว่าได้ป้อนยาวิตามินให้สุนัขเอง ทั้งนี้ ตนตรวจสอบเบื้องต้นแล้วไม่ใช่วิตามินของสัตว์แน่นอน เพราะส่วนใหญ่วิตามินของสุนัขจะเป็นรสตับ รสนมที่ชวนให้สุนัขอยากกิน และยาวิตามินของสุนัขที่มีน้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัมก็ไม่น่าจะป้อนจำนวนมากกว่า 10 เม็ด รวมทั้งยาเม็ดที่พบอีกชนิดก็เป็นยาลดความดันของคนอย่างชัดเจน ดังนั้น ตนเองจึงให้เจ้าของสุนัขไปหาใบฉลากยา หรือกระปุกยามายืนยัน เพื่อเขียนในใบชันสูตรเพิ่ม แต่เจ้าของสุนัขบอกว่าทิ้งไปแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าเป็นยาที่ทางโรงพยาบาลสัตว์ในกรุงเทพมหานครให้สุนัขกินมา หลังจากนั้นตนก็ทราบว่าทางเจ้าของสุนัขได้โทรศัพท์ไปขอร้องให้โรงพยาบาลสัตว์ที่กรุงเทพมหานครเขียนย้อนหลังให้ว่าได้ป้อนยาชนิดนี้ไป ซึ่งทางโรงพยาบาลสัตว์ดังกล่าวก็ไม่สามารถทำให้ได้ ตนจึงได้นำใบผ่าชันสูตรซากสุนัขไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง เพื่อเป็นหลักฐาน

สัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถกล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อเช้านี้ตนเพิ่งรู้ว่าทางเจ้าของสุนัขได้มีการแก้ไขใบผ่าชันสูตรซากสุนัข โดยการเขียนบางอย่างเพิ่มเข้าไป หลังจากนั้นช่วงกลางดึกของวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ตนก็ได้ทราบจากบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยงว่าเจ้าของสุนัขไม่เรียกร้องค่าเสียหายแล้ว แต่ขณะเดียวกันก็ยังไปป่วนที่โรงพยาบาลสัตว์ที่กรุงเทพมหานครอยู่ ว่าจะไปฟ้องสัตวแพทยสภาให้ไปตรวจสอบการทำงานของแพทย์ ตนจึงเห็นว่าเรื่องนี้ยังไม่จบจริงๆ เลยตัดสินใจนำเรื่องราวเหล่านี้มาโพสต์ไว้ในโลกโซเชียลเพื่อเตือนภัยสังคม และเมื่อโพสต์ไปได้สักระยะหนึ่งก็พบว่ามีโรงพยาบาลสัตว์อีกแห่งในจังหวัดนครราชสีมา แจ้งว่าเคยเจอเคสแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้มีการผ่าซากจึงไม่ทราบสาเหตุการตาย และได้ส่งรูปมาให้ดูจึงพบว่าเป็นคนเดียวกัน อีกทั้งมีร้านขายสุนัขโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกค้ารายนี้เพิ่งได้ซื้อสุนัขพันธุ์ปอมตัวดังกล่าวไปในราคา 6,500 บาท แต่โอนเงินเข้าบัญชีร้านขายสุนัขจำนวน 50,000 บาท เพื่อให้ทางร้านออกใบเสร็จให้ว่าซื้อสุนัขไปในราคา 50,000 บาท ดังนั้น จึงเชื่อว่าคนนี้น่าจะทำมาแล้วหลายครั้ง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image